tag:blogger.com,1999:blog-29010930556367724822024-03-13T09:14:57.751-07:00เทคนิคการเป็นพิธีกรนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมD.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.comBlogger20125tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-68156302873243546122009-10-19T17:11:00.000-07:002010-04-20T02:59:07.905-07:00สคริปต์ในวันแต่งงาน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib8YnsuyRurB7NdOzYdqtwmDN3gavl0cFlffabZPHbOeqL-eqwb-DWVRigTEDTD9sjxkmqpvaGOD12FpJf9FcGzzs0EtuGpAcN5S_4Mc38S_H8JpNRVW1tFzI0dweiR6qewowF2USj7vM/s1600-h/3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394990744659555842" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 89px; CURSOR: hand; HEIGHT: 133px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib8YnsuyRurB7NdOzYdqtwmDN3gavl0cFlffabZPHbOeqL-eqwb-DWVRigTEDTD9sjxkmqpvaGOD12FpJf9FcGzzs0EtuGpAcN5S_4Mc38S_H8JpNRVW1tFzI0dweiR6qewowF2USj7vM/s320/3.jpg" border="0" /></a> <div><span style="color:#3366ff;"><span style="font-family:arial;color:#cc0000;">สคริปต์ในวันแต่งงาน : ข้อมูลโดยคุณ PN<br /></span><br /></span><span style="font-family:arial;color:#3366ff;"><span style="color:#ff6666;">เวลาไหน ทำอะไร ใครผู้รับดูแล </span></span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3366ff;"><span style="color:#ff6666;">ดนตรียังไง ไฟ/สถานที่ แบบไหน<br /><br /></span>18.00-18.30 รับแขกหน้างาน ผู้ดูแลให้ช่วยจัดกระโปรงและดูความเรียบร้อยให้ด้วย เวลาถ่ายรูปจะได้สวยๆ คุณ................(ใส่ชื่อไว้) ดนตรีบรรเลงตามลิสต์เพลง ไฟสว่างพอสมควร ไม่สว่างมากเกิน<br />19.00 น. อาหารเริ่มเสริฟ หรือดูเวลาตามความเหมาะสม คุณ................ ดนตรีบรรเลง ไฟเหมือนเดิม<br />19.45 น. เริ่มพิธีการ (ประมาณอาหารจานที่ 4-) ช่วงเริ่มพิธีการ อาหารหยุดเสริฟชั่วคราว ช่วยแจ้งพนักงานเดินโต๊ะด้วย คุณ................ ดนตรี หยุดบรรเลง<br />- พิธีกรขึ้นบนเวทีกล่าวต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน และเชิญชมวีดีทัศน์ คุณ................<br />- ฉายวิดีทัศน์ ประกอบเพลง ประมาณ 5 นาที คุณ................<br /><br />ดีมไฟให้มืดสุดเท่าที่ทำได้ 5 นาที<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvqjd5cecR9uTGGQhSJ0vX4-38603n-hzhSMOo_4pHtQ7NOj4UJ_6gc-JExAbYXTPeQlq5aEohV-jJe2lC3rKBF44P_ZItLvVbCbwDnyE9jBfxBuQX4h_oyJH3jM5ptDg0klJwCDgEtIc/s1600-h/1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394990982256963986" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 130px; CURSOR: hand; HEIGHT: 137px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvqjd5cecR9uTGGQhSJ0vX4-38603n-hzhSMOo_4pHtQ7NOj4UJ_6gc-JExAbYXTPeQlq5aEohV-jJe2lC3rKBF44P_ZItLvVbCbwDnyE9jBfxBuQX4h_oyJH3jM5ptDg0klJwCDgEtIc/s320/1.jpg" border="0" /></a>- พิธีกรกล่าวเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวที<br />บ่าว สาว รออยู่หน้างาน คุณ.......จะดูแลให้เดินออกตอนไหนถึงเหมาะสม </span><span style="font-family:arial;color:#3366ff;">เดินช้า ๆ กะว่าเพลงเล่นไปเกือบค่อนเพลง<br /><br />ดนตรีเล่นเพลง She พร้อมร้อง </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3366ff;">เปิดไฟเฉพาะช่วงทางเดิน<br /><br />- พีธีกรกล่าวเชิญประธานในพิธีขึ้นบนเวที คล้องพวงมาลัย พร้อมกล่าวอวยพร (รายละเอียดข้อมูลของประธานอยู่ที่พิธีกรแล้ว)<br />ให้คุณ......ถือพานพวงมาลัย และดูเรื่องเครื่องดื่มของประธานที่จะเชิญดื่มอวยพร (ประธานไม่ดื่มแอลกฮอล์ ให้เสริฟน้ำเปล่า) เปิดไฟสว่างตามปกติ<br /><br />- พิธีกรกล่าวเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวคำอวยพร<br />(รายละเอียดข้อมูลอยู่ที่พิธีกรแล้ว)<br /><br />- พิธีกรสัมภาษณ์บ่าวสาวเล็กน้อย<br />สคริปคำถามพิธีกรเตรียม แต่ขอดูก่อน<br /><br />- พิธีกรกล่าวเชิญ เจ้าบ่าว กล่าวขอบคุณแขก<br />- พิธีกรกล่าวเชิญ เจ้าสาว กล่าวขอบคุณแขก<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsP_QcY0Je29F3STtvYrwbZdgmYzTnhNNIg-qEidm3vLWzlfMLy79QPBWtlwk_1pAPNCnElweYnjfQ2l2Y5gPV2Kn6T2FnzYo-J3WUAFTbI9wzbeeSM-Nfh85wO0UYBxy3_V7jo5Ido8Y/s1600-h/7.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394991309705285362" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 135px; CURSOR: hand; HEIGHT: 101px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsP_QcY0Je29F3STtvYrwbZdgmYzTnhNNIg-qEidm3vLWzlfMLy79QPBWtlwk_1pAPNCnElweYnjfQ2l2Y5gPV2Kn6T2FnzYo-J3WUAFTbI9wzbeeSM-Nfh85wO0UYBxy3_V7jo5Ido8Y/s320/7.jpg" border="0" /></a>- พิธีกรเชิญจุดเทียนมงคล และตัดเค้ก<br />คุณ.....ดูแลพิธีการพร้อมแนะนำการจุดเทียน ให้จุดเทียนก่อน ซ้ายไปขวา แล้วค่อยตัดเค๊ก ปาดเบาครั้งเดียวจากชั้นบนลงล่าง ตัดเค๊กจริงชั้นล่างสุด 2-3 ชิ้น ดูจังหวะ ช่างถ่ายรูปให้ทันด้วย คุณ................ ดนตรีเล่นเพลง + ร้อง เพลงความรัก </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3366ff;">ดีมไฟให้มืด<br /><br />- นำเค้กให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย มี พ่อเจ้าสาว / แม่เจ้าบ่าว </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3366ff;">ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว และเจ้าสาว </span><span style="font-family:arial;color:#3366ff;">รวม 4 ท่าน<br /><br />ไฟเปิดตามปกติ<br /><br />เสร็จพิธี<br /><br />ดนตรีบรรเลงหรือร้องตามปกติ<br /><br />พักผ่อนสำรวจความเรียบร้อยหน้าตา พวงมาลัยและถ่ายรูปคู่หลายๆ รูป<br /><br />ถ่ายรูปกับแขกตามโต๊ะ<br /><br />ยืนส่งแขกหน้างาน<br /><br /><span style="color:#cc0000;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCDuZ_qN6oJTQyt73gnqbDlmtRZ-Z_jO8LP3l6D0Yn3VInvj0-P8SPCkQNJcFkOxs9DiruLPg17dG3pcPMfVL9CtsSIGpJwBE3FmcYNweRFhP4DupzpLQocZNUXLAVpy61HSYWYCjzfVY/s1600-h/5.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394990857970537522" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 103px; CURSOR: hand; HEIGHT: 118px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCDuZ_qN6oJTQyt73gnqbDlmtRZ-Z_jO8LP3l6D0Yn3VInvj0-P8SPCkQNJcFkOxs9DiruLPg17dG3pcPMfVL9CtsSIGpJwBE3FmcYNweRFhP4DupzpLQocZNUXLAVpy61HSYWYCjzfVY/s320/5.jpg" border="0" /></a>หมายเหตุ<br />1. ไม่มีแขกขึ้นร้องเพลงบนเวที ถ้าจำเป็นจริง ๆ ขอแค่ 1-2 ท่านเท่านั้น ร้องช่วงท้ายงานหลังเสร็จพิธีเท่านั้น<br />2. แนวเพลงขอประมาณเพลงเบา ๆ ฟังสบาย ใส ๆ ประเภทเพลง มหัศจรรย์แห่งรัก ใจรัก ลมหายใจ รักเดียวใจเดียว และเพลงสากลแบบตัวอย่างที่ให้มา ฯลฯ<br /><br /></span><br />คำกล่าวขอบคุณแขกที่มางาน<br />เจ้าบ่าว<br />ผมขอขอบคุณท่านผู้มีเกียรติทุก ๆ ท่าน ที่ให้เกียรติต่อผม เจ้าสาวของผม และครอบครัวของเราทั้งสองคน ที่กรุณาสละเวลามาเป็นเกียรติในวันนี้ ผมรู้สึกดีใจมากที่มีวันนี้ รู้สึกตัวเองมีหน้าที่ และความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ทำให้ผมได้เรียนรู้ชีวิตในอีกรูปแบบนึง ซึ่งผมยินดี และเต็มใจมากต่อภาระหน้าที่นี้ ผมต้องขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวของผมที่ให้เกียรติ และมอบความไว้วางใจให้ผมได้เป็นผู้ดูแลลูกสาวของท่าน ผมขอขอบคุณพ่อแม่ของผมที่เลี้ยงดู อบรม ให้การศึกษา และความห่วงใยผมมาเป็นอย่างดี ซึ่งผมจะใช้เป็นแนวทางในการดูแลสมาชิกใหม่ในครอบครัวของผมต่อไป ซึ่งผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ขอบคุณครับ<br /><br />เจ้าสาว<br />สวัสดีค่ะ ขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่มาร่วมอวยพรให้เราทั้งสองคนในวันนี้ รู้สึกซึ้งใจมากค่ะ อยากขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับพ่อแม่ของเราทั้งสองคนที่มีบุญคุณต่อเรามาก ๆ อยากบอกพ่อว่าถึงแต่งงานแล้วก็ยังรักพ่อเท่าเดิมค่ะ วันนี้เราสองคนได้รับแต่สิ่งดีงาม คำพูด คำแนะนำ และคำอวยพรมากมายจากทุก ๆ ท่าน รู้สึกมีความสุขมากค่ะ จึงอยากขอกล่าวคำอวยพรให้ทุกท่านบ้าง ขอให้ทุก ๆ ท่าน มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง มีความสุข และประสบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดไป ขอบคุณค่ะ<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhw4Cc0bFKGZbwHQZQluaH4UcmNguWGtFvNIxYyijDngEFKYsmlhjUGPOpwZ85hUE1ftlLydl7_qnXEKCckWN04XN-bAJd0QZeg_B2uR-q3IXzT0LhGtB0UiiN6PUhzoVOvYamQOSsszFY/s1600-h/4.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394991640985338498" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 127px; CURSOR: hand; HEIGHT: 85px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhw4Cc0bFKGZbwHQZQluaH4UcmNguWGtFvNIxYyijDngEFKYsmlhjUGPOpwZ85hUE1ftlLydl7_qnXEKCckWN04XN-bAJd0QZeg_B2uR-q3IXzT0LhGtB0UiiN6PUhzoVOvYamQOSsszFY/s320/4.jpg" border="0" /></a><br /><span style="color:#cc0000;">** ประวัติเจ้าบ่าว + ประวัติเจ้าสาว / ชื่อข้อมูลประธานและผู้กล่าวอวยพร / สคริปสัมภาษณ์ แยกใบให้พิธีกรไปแล้ว<br />ขอขอบคุณ คุณ PN ที่ได้นำข้อมูลอันเป็นประโยชน์มา เผยแพร่</span></span><br /></div><span style="font-family:Arial;color:#cc0000;"></span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-21642296365320454312009-10-12T23:51:00.000-07:002009-10-21T03:14:44.475-07:00สคริปต์งานแต่ง<div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgeZXj_OnlocbbuYCvbwKYh-yi9MjCeZMR5oE5eIaMJFaqJk2wEQUdAlYEA6GCEx19JMUPAW5irhH8aoK0KqFKJ49evpVNanD1yUmmYDuEr62cH-zSxdMvnspRixQq190lxIvIHwiPSdQI/s1600-h/6.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394994308840120786" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 133px; CURSOR: hand; HEIGHT: 93px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgeZXj_OnlocbbuYCvbwKYh-yi9MjCeZMR5oE5eIaMJFaqJk2wEQUdAlYEA6GCEx19JMUPAW5irhH8aoK0KqFKJ49evpVNanD1yUmmYDuEr62cH-zSxdMvnspRixQq190lxIvIHwiPSdQI/s320/6.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:arial;">ตัวอย่างหนึ่งของงานฉลองมงคลสมรส</span><br /><span style="font-family:arial;">ค่อนข้างละเอียด มีการเตรียมการและตรวจสอบความเรียบร้อยทุกขั้นตอน</span><br /><span style="font-family:arial;">พิธีกรคู่ ทำความเข้าใจและซักซ้อมก่อนงาน</span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;">17.00 น. - บ่าวสาวและญาติมาถึงบริเวณงาน</span><br /><span style="font-family:arial;">17.30 น. - </span><span style="font-family:arial;">บ่าวสาวและญาติถ่ายรูปร่วมกันหน้างาน</span><br /><span style="font-family:arial;">18.00 น. - ต้อนรับแขก ถ่ายรูปร่วมกัน (ด้านในงานเปิดเพลงบรรเลง)</span><br /><span style="font-family:arial;">18.30 น. - แขกทยอยเข้างาน Presentation ภาพตอนหมั้น ดนตรีเริ่มบรรเลง</span><br /><span style="font-family:arial;">19.00 น. - เริ่มทยอยอาหารออก (10 นาที ต่อ 1 อย่าง)</span><br /><span style="font-family:arial;">- ตรวจสอบดูว่าประธานมาถึงหรือยัง ถ้าจำนวนแขกมากกว่า 80 % ให้เริ่มพิธีการ</span><br /><span style="font-family:arial;">19.15 น. - พิธีกรขึ้นเวที</span><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรกล่าวสวัสดีแขกที่มาร่วมงาน แนะนำตัวเองสั้นๆ</span><br /><span style="font-family:arial;">- Presentaion แนะนำบ่าวสาว</span><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว ขึ้นเวที </span><span style="font-family:arial;">(เปิดตัวด้วยการร้องเพลงมาจากข้างนอก </span><br /><span style="font-family:arial;">ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว </span><span style="font-family:arial;">จนขึ้นบนเวที) เปิดไฟ Follow</span><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรกล่าวเชิญประธานคล้องพวงมาลัย, ส่งเทียนฉนวนให้บ่าวสาว จุดเทียนมงคล </span><br /><span style="font-family:arial;">และกล่าวอวยพรในฐานะประธาน</span><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรกล่าวเชิญแขกผู้มีเกียรติ (ผู้ว่าราชการจังหวัด) </span><br /><span style="font-family:arial;">กล่าวอวยพรในฐานะ แขกผู้มีเกียรติ</span><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรกล่าวเชิญพ่อเจ้าบ่าว และพ่อแม่เจ้าสาว ขึ้นเวที แนะนำสั้นๆ </span><br /><span style="font-family:arial;">ผู้แทนเจ้าภาพกล่าวขอบคุณแขก แล้วลงจากเวที</span> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7HM1n7HfrV513HZmCE0mONDQ_vIdxC2YaGiY39JwFroYqA0sDaFcciaK1TPIT_wJj2eAYBmOLPjAKGIKB3nSaoPheTuLa4sw8cx2NxYYKIzUdci51f9PQnHRwCi-NzC70qME-aPDUFXA/s1600-h/2.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394994434402266770" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 116px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7HM1n7HfrV513HZmCE0mONDQ_vIdxC2YaGiY39JwFroYqA0sDaFcciaK1TPIT_wJj2eAYBmOLPjAKGIKB3nSaoPheTuLa4sw8cx2NxYYKIzUdci51f9PQnHRwCi-NzC70qME-aPDUFXA/s320/2.jpg" border="0" /></a><br /><span style="font-family:arial;">- พิธีกรสัมภาษณ์ บ่าวสาว ตามที่ได้ตกลงกันไว้ (ซักซ้อมไว้แล้วล่วงหน้า)</span><br /><span style="font-family:arial;">- เจ้าบ่าวเจ้าสาว กล่าวขอบคุณแขก</span><br /><span style="font-family:arial;">- เจ้าบ่าวเจ้าสาว ตัดเค๊ก แล้วนำไปให้โต๊ะประธาน</span><br /><span style="font-family:arial;">- เจ้าบ่าวเจ้าสาว เดินขอบคุณแขกตามโต๊ะ และส่งแขก</span><br /><span style="font-family:arial;">- เสร็จพิธี</span><br />...........................<br /></span><span style="color:#cc0000;"></span><br /><span style="color:#cc0000;"><span style="font-family:courier new;">เตรียมการละเอียดมาก เรียบร้อยแต่เรียบง่าย สั้นกระทัดรัด </span><br /><span style="font-family:courier new;">งานนี้เน้นที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ตั้งแต่การเปิดตัวด้วยการร้องเพลง จนเสร็จพิธี</span><br /><span style="font-family:courier new;">ดูแล้วสบายใจสบายตา ผู้มาร่วมงานมีความสุข</span><br /><span style="font-family:courier new;">พิธีกร ก็ OK. นะ</span><br /></span><br /></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-30155953092680636862009-09-03T19:33:00.000-07:002009-09-04T18:27:28.719-07:00การเตรียมความพร้อมของพิธีกร<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiHOjRFWKH85PdX5FKMIxcFo2sNfLrHww59nJBHfBwaxNsT5wB4tMFoWRhUiRT45YXA7LO0PNWcbAO4ETTMHU-tW6l59w3yPX2UyIA81LH7i0ulEzDBoS25dopF8hIGdBuOt2kLkEROi3I/s1600-h/DSC093981.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377515043673913394" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiHOjRFWKH85PdX5FKMIxcFo2sNfLrHww59nJBHfBwaxNsT5wB4tMFoWRhUiRT45YXA7LO0PNWcbAO4ETTMHU-tW6l59w3yPX2UyIA81LH7i0ulEzDBoS25dopF8hIGdBuOt2kLkEROi3I/s320/DSC093981.jpg" border="0" /></a> <span style="color:#000099;"><span style="font-family:arial;">วรรณภา วรรณศรี<br /><br />“การเตรียมความพร้อมมาอย่างดีเท่ากับได้ชัยชนะมาครึ่งหนึ่งแล้ว” คำกล่าวนี้ทำหน้าที่พิธีกรทุกคนควรจะตรึกระลึกเพื่อเตือนตนเองอยู่เสมอ เพราะการเตรียมความพร้อมที่ดีจะช่วยให้การทำหน้าที่ของพิธีกรราบรื่น และยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่พิธีกรอีกด้วย หากเป็นเช่นนี้..แล้วเราควรจะเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้างในฐานะพิธีกร ? จะขอกล่าวแยกเป็น 3 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้<br /></span><span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#ff0000;">การเตรียม...เพื่อสะสมความรอบรู้<br /></span></strong>เสน่ห์ของพิธีกรก็คือความรู้ในเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการพูดแต่ละครั้งซึ่งมิได้หมายความเฉพาะการรู้เจาะลึกในเรื่องราวที่จะพูดโดยตรงเท่านั้น หากแต่เป็นการรอบรู้เรื่องราวที่สามารถขยายโลกทัศน์ของผู้ฟังให้เกิดความรู้ความเข้าใจกว้างขวางขึ้น และเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวหรือบรรยากาศ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสาระการพูดนั้นๆ ด้วย ในส่วนของการสะสมความรอบรู้ จะขอแบ่งออกเป็น 2 ประการ ได้แก่<br />1. ความรอบรู้ในเรื่องราวที่จะพูดโดยตรง สมมติว่าท่านต้องทำหน้าที่พิธีกรในงานพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธี 5 ธันวามหาราช หรืองานพิธีการที่มีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จหรืองานที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นประธาน เหล่านี้เป็นต้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องรู้จักใช้คำราชาศัพท์ หรือคำพูดให้เหมาะสมกับลำดับชั้นของบุคคล<br />นอกจากนี้ หากท่านต้องเป็นพิธีกรงานแต่งงาน งานบวช งานศพ งานเลี้ยงส่ง ฯลฯ ท่านจะต้องศึกษาการพูดตามวัฒนธรรมของแต่ละงานให้ถูกต้อง ผู้เขียนเคยไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ พิธีกรในวันนั้นคงจะตั้งใจมากเมื่อถึงเวลาที่ผู้อัญเชิญหีบเพลิงพระราชทานมาถึง พิธีกรก็กล่าวขึ้นว่า “วันนี้นับเป็นศิริมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบเพลิง.....” แขกหรือในงานทั้งอมยิ้ม ทั้งอึ้งไปตามๆ กัน เพราะอันที่จริงแล้วงานศพถือเป็นงานอวมงคลที่ถูกน่าจะพูดว่า “วันนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหีบเพลิง เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพแก่......”<br /><br /><strong><span style="color:#ff0000;">หากท่านต้องทำหน้าที่พิธีกรงานประเพณีต่างๆ</span></strong> เช่น งานลอยกระทง งานทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhX1jYsM_OlOgyXkQzRI3Wb7QZLH_JNmY7iX8MmGKkgJVLZL9tK44YF_yCXIIAxdfQo4KVpDmQcTTCYdV_z0hkZv-QjRZkBL-z2kbgtJHU68hx7smyBXqtoL6_5jYF30MyUxyzr5b4HYI8/s1600-h/DSC094161.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377512498787418498" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 232px; CURSOR: hand; HEIGHT: 217px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhX1jYsM_OlOgyXkQzRI3Wb7QZLH_JNmY7iX8MmGKkgJVLZL9tK44YF_yCXIIAxdfQo4KVpDmQcTTCYdV_z0hkZv-QjRZkBL-z2kbgtJHU68hx7smyBXqtoL6_5jYF30MyUxyzr5b4HYI8/s320/DSC094161.jpg" border="0" /></a> งานประเพณีสงกรานต์ หรือทำหน้าที่พิธีกรในวันสำคัญทางศาสนาเหล่านี้ เป็นต้น ท่านจะต้องศึกษาที่มาที่ไปของงานนั้น ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นประวัติของงาน จารีตประเพณี รวมทั้งกิจกรรมที่นิยมกระทำในงานนั้น ๆ ด้วย ไม่ใช่ว่ามาทำหน้าที่อ่านกำหนดการจัดงานอย่างเดียวเท่านั้น ความรอบรู้อย่างลุ่มลึกในสาระเรื่องราวที่เกี่ยวกับการพูดของท่านโดยตรง ถือเป็นกฎเหล็กของการทำหน้าที่พิธีกรเลยก็ว่าได้ (ความเห็นของผู้เขียน) เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่ของท่านก็จะเป็นเพียง “ผู้ส่งเสียงบอก” เท่านั้น<br />2. ความรอบรู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับการพูด หากจะเปรียบการพูดเหมือนอาหารแล้ว เมื่อใดที่ผู้บริโภค คือ ผู้ฟังต้องรับประทานข้าวเปล่าโดยไม่มีกับข้าวหรือน้ำดื่มเพื่อทำให้กระบวนการรับประทานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว อาหารมื้อนั้นก็คงจะฝืดคอเต็มที สาระที่พิธีกรพูดก็เช่นกัน หากเป็นเพียงเนื้อโดยไม่มีน้ำบ้างก็ดูกระไรอยู่ ขอขยายความตรงนี้ว่า สมมติท่านต้องทำหน้าที่พิธีกรงานลอยกระทงบริเวณชายหาดพัทยา แน่นอนท่านต้องพูดเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง และกิจกรรมที่กระทำให้วันนี้ ส่วนนี้ คือ ความรอบรู้ในสาระที่พูดโดยตรงซึ่งตรงกับข้อความประการแรกที่กล่าวข้างต้น แต้ถ้าหากท่านเพิ่มเติมเรื่องราวของการลอยกระทงในทะเลว่ามีความแตกต่างอย่างไร กับการลอยกระทงในน้ำจืด หรือถ้าท่านพูดถึงเกร็ดย่อยๆ อื่น เช่นความเป็นมาของเพลงลอยกระทงเพิ่มเติมขึ้นมา ส่วนนี้คือ ความรอบรู้ตามความหมายในข้อความประการที่สอง<br /></span><span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#ff0000;">ตัวอย่าง คำพูดของพิธีกรในงานลอยกระทง<br /></span></strong>“.....ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านคะ ประเพณีลอยกระทงเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล หลายท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ และเยาวชนอาจจะยังไม่ทราบว่าประเพณีลอยกระทงมีความเป็นมา ซึ่งปรากฏตามเอกสาร หรือหนังสือที่นำมาเป็นข้อมูล ”<br /><strong><span style="color:#ff0000;">จากตัวอย่าง</span></strong>เป็นการพูดแสดงความรอบรู้ในเรื่องราวโดยตรง เพราะพูดถึงความเป็นมาของประเพณี ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสากลทางวัฒนธรรมในสังคมของไทย “....ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประเพณีคู่ชาติไทยมาเนิ่นนาน แต่ท่านผู้มีเกียรติงานประเพณีลอยกระทง เราจะพบเห็นว่าจะลอยกระทงกันในแม่น้ำลำคลองเป็นส่วนใหญ่ แต่คืนวันนี้เมืองพัทยา เราจะลอยกระทงกันในท้องทะเลซึ่งเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากการลอยกระทงในแม่น้ำลำลอง น้ำทะเลจะขึ้นเต็มที่ก็ต้องร่วม 24 นาฬิกา หรือ 6 ทุ่มไปแล้ว ซึ่งนี้ก็เป็นธรรมชาติของทะเลคือเพ็ญ เดือน 12 เพราะฉะนั้นถ้าจะลอยกระทงให้ได้บรรยากาศก็ต้องรอให้น้ำขึ้นเต็มที่ ดิฉันคิดว่าธรรมชาติเอื้ออำนวยกับชาวพัทยาจริงๆ ตอนนี้ขอเชิญชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค ก่อนค่ะ..…” จะเห็นได้ว่า การขยายความเกี่ยวกับลักษณะธรรมชาติการลอยกระทงที่ชายหาดพัทยาเป็นการพูดแสดงความรอบรู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่อง เป็นการเพิ่มสีสันของการพูดให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเหล่านี้เป็นต้น<br /><strong><span style="color:#ff0000;">นอกจากนี้</span></strong> พิธีกรจะต้องทันเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น ชื่อ – ตำแหน่งของบุคคลที่เอ่ยถึงต้องเป็นปัจจุบัน หากไม่มั่นใจก็ควรเอ่ยเฉพาะตำแหน่งจะเหมาะกว่า เช่นสมมุติว่ามีนายอำเภอเพิ่งย้ายมาใหม่ ท่านไม่แน่ใจว่านายอำเภอชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร ก็เอ่ยเพียงตำแหน่งก็เพียงพอ เพราะหากพูดชื่อ – นามสกุลผิดไปจะทำให้เสียหายมากกว่าได้ดี<br /><strong><span style="color:#ff0000;">ผู้เขียนขอเสนอแนะว่า</span></strong> พิธีกรควรจะจัดทำแฟ้มข้อมูลส่วนตัวเพื่อเก็บสะสมรายละเอียดสาระที่จะเป็นข้อมูลในการพูด สิ่งเหล่านี้จะเป็นวัตถุดิบในการพูดให้เป็นอย่างดี สำหรับผู้เขียนเองจะมีแฟ้มชื่อว่า “ล้วนสาระ” ไว้เก็บวัตถุดิบทางการพูดไว้ เมื่อถึงคราวจะพูดก็จะหยิบขึ้นมาใช้ได้ทันทีโดยเฉพาะข้อมูลที่เราต้องพูดตามกาลเวลา เช่น งานลอยกระทง งานสงกรานต์ เป็นต้นการเตรียม.....จัดสาระและขั้นตอน ในการทำหน้าที่แต่ละครั้งของพิธีกรจะต้องวางแผนอย่างรัดกุมและครอบคลุมทั้งสาระเรื่องราวที่จะพูดและขั้นตอนต่างๆ เพราะโดยทั่วไปพิธีกรซึ่งเป็นคนในหน่วยงาน หรือองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้พูด หรือถูกเชิญไปพูดมักจะไม่มี “จัดการ” ดูแลรายละเอียดต่างๆ ให้ ซึ่งถ้าเป็นกรณีผู้มีอาชีพพิธีกรโดยเฉพาะตามรายการโทรทัศน์ หรือบางงานอาจว่าจ้างบริษัทมาดำเนินการให้ เช่น งานแสดงคอนเสิร์ต งานประกวดนางงาม เหล่านี้เป็นต้น ลักษณะนี้จะมีการจัดเตรียมทีมงานเขียนบทพูด (Script) และจัดขั้นตอนรายการให้เสร็จสรรพก็ถือว่าเป็นกรณีพิเศษไป แต่อย่างไรก็ตามพิธีกรก็ไม่ควรประมาท และเตรียมความพร้อมของ “สาระ” ให้ดี คำว่า “สาระ” ในที่นี้ความหมายรวมถึงลำดับขั้นตอนการพูด และโครงสร้างของงานทั้งหมดด้วย <strong><span style="color:#ff0000;">ซึ่งมีข้อแนะนำ ดังนี้ </span></strong><br />1) ต้องหาข้อมูลว่าเราจะไปพูดงานอะไร สถานที่หรือบรรยากาศของงานเป็นอย่างไรมีใครเป็นประธานในงาน ผู้ฟังเป็นใคร มี่จำนวนมากน้อยแค่ไหน จะต้องใช้เวลาทำหน้าที่นานเท่าใด จากนั้นต้องนำมาวางแผนการพูดเพื่อให้ “ฟังสบายหู ดูสบายตา พาสบายใจ” พิธีกรหลายคนต้องประสบสภาวะ “ตกม้าตาย” เพราะความไม่รอบคอบ เช่น การพูดในที่กลางแจ้งกับการพูดในห้องประชุมบรรยากาศก็ต่างกันแล้ว ห้องแอร์ที่เย็นสบายกับห้องที่มีพัดลมแต่อบอ้าวก็เป็นปัญหาในการพูด เมื่อรู้ข้อมูลทั่วๆ ไป ดังกล่าวแล้วก็เตรียมนำมาจัดขั้นตอนการทำหน้าที่เพื่อให้เกิดความพรั่งพรูทั้งภาษา และลีลาการพูด<br />2) ควรจัดทำกำหนดการของงานไว้คร่าวๆ ว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร หากบางงานเจ้าของงานเตรียมกำหนดการขั้นตอนไว้แล้วก็ต้องขอข้อมูลเหล่านั้นมาศึกษาก่อน และสอบถามพูดคุยจนเป็นที่เข้าใจตรงกันกับเจ้าของงานหรือผู้รับผิดชอบ ถ้าหากเจ้าของงานไม่จัดเตรียมขั้นตอนของงานไว้แน่นอนที่สุด พิธีกรต้องจัดเตรียมให้และชี้แจงให้เจ้าของงานรับทราบแลเห็นชอบ บางงานเจ้าของงานจะเตรียมขั้นตอนเสียเยินเย้อ พิธีกรต้องช่วยให้คำแนะนำด้วย<br />3) ต้องศึกษาโครงสร้างของการพูดแต่ละงานให้ถ่องแท้ งานที่เป็นทางการ เช่น งานพระราชทานเพลิงศพ งานที่ไม่เป็นทางการหรืองานกึ่งทางการโครงสร้างของการพูดจะแตกต่างกัน<br />ดังนั้น จะเห็นว่า พิธีกรจะต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการพูด การจัดลำดับขั้นตอนของงานไปพร้อมๆ กัน เพราะพิธีกร คือ ผู้ที่สร้างสรรค์บรรยากาศของงานโดยแท้จริง พิธีกร คือ คนแรกที่ต้องพูด และเป็นคนสุดท้ายที่ต้องพูดในงานทุกครั้ง<br /></span><span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#ff0000;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjMwy5Wc6jgNmTftxcBtJZRevdqRYkGjDWZf3BVlBES3elMN_hL2Lsr3RcD-XvnPY8_LmqKrzkQjs3KwEOw9EbzZ55dTJMrB5dpQnnqHieixFjUY7_OsJcx5a3BONq6xpPaDNjZgy39eks/s1600-h/DSC093491.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377512911703139618" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 234px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjMwy5Wc6jgNmTftxcBtJZRevdqRYkGjDWZf3BVlBES3elMN_hL2Lsr3RcD-XvnPY8_LmqKrzkQjs3KwEOw9EbzZ55dTJMrB5dpQnnqHieixFjUY7_OsJcx5a3BONq6xpPaDNjZgy39eks/s320/DSC093491.jpg" border="0" /></a>การเตรียม.....เพื่อการศึกษา<br /></span></strong>เมื่อเตรียมกระบวนท่าพร้อมลงสู่สนามตามข้อแนะนำต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นมาแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการเตรียมบรรเลงกระบวนท่า และลีลาให้สมกับผู้ทำหน้าที่พิธีกร ซึ่งจะแยกประเด็นเป็น 2 วาระ ดังนี้<br /><span style="color:#ff0000;">1)</span> เตรียมตัวก่อนทำหน้าที่ ทุกครั้งก่อนที่จะขึ้นทำหน้ามี่พิธีกรควรวางแผนเตรียมการอย่างรัดกุม สำหรับผู้เขียนเองโดยปกติจะเตรียมตัวเป็น 2 ระยะ ดังนี้<br /><span style="color:#ff0000;">1.1</span> การเตรียมตัวระยะยาว ซึ่งอาจจะเป็นการเตรียมการตั้งแต่ก่อนทำหน้าที่ตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป บางงานที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น การทำหน้าที่ต่อเบื้องพระพักตร์พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้เขียนจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน (หากทราบล่วงหน้าเป็นระยะยาว) แล้วเตรียมอะไรบ้าง<br />1.1.1 ศึกษาขั้นตอนกำหนดงาน และพยายามศึกษาจากงานต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยอาจดูจากตามรายการโทรทัศน์ทั้งนี้เพื่อศึกษารูปแบบของงาน และลีลาการพูด รวมทั้งภาษาพูดของพิธีกร </span></span><br /><span style="color:#000099;"><span style="font-family:arial;">1.1.2 ศึกษาหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับงานนั้นๆ โดยการอ่านหนังสือตำราที่เกี่ยวข้อง หรือพูดคุยจากบรรดาผู้รู้ทั้งหลาย<br />1.1.3 จัดทำสรุปข้อมูลย่อๆ ในรายละเอียดต่างๆ ที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการพูด<br />1.1.4 บางกรณีเจ้าของงานจะยังไม่ได้จัดเตรียมกำหนดการขั้นตอนของงานไว้หรือเตรียมไว้แต่ดูยังไม่เหมาะสมพิธีกรต้องช่วยแนะนำด้วย<br />1.1.5 วางแผนเรื่องการแต่งกายให้เหมาะสม<br /><span style="color:#ff0000;">1.2</span> การเตรียมตัวระยะสั้น หมายถึง การเตรียมตัวในวันที่จะทำหน้าที่ส่วนนี้ ถือว่า สำคัญยิ่งกว่าการเตรียมตัวในระยะแรก สำหรับผู้เขียนจะเตรียมการ ดังนี้<br />1.2.1 ไปถึงงานอย่างน้อย ที่สุด 1 ชั่วโมง หรือหากขัดข้องจริงๆ จะต้องไปถึงงานอย่างน้อย 30 นาที ก่อนถึงเวลาเริ่มงาน เพื่อดูความพร้อมของงาน และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง<br />1.2.2 เดินสำรวจบริเวณงานโดยเฉพาะเวที หรือบริเวณที่เราจะต้องยืนพูดเราจะต้องลองเดินขึ้นลงบริเวณเวที และสังเกตว่าบันไดเป็นอย่างไร ขั้นบันไดสูงชันหรือไม่ พื้นเวทีเรียบหรือไม่ การก้าวเดินของเราจะต้องมีเส้นทางอย่างไรจะขึ้นเวทีด้านใดเหล่านี้เป็นต้น<br />1.2.3 หากจะต้องยืนพูดที่แท่นพูด (Podium) จะต้องลองไปยืนดูและสังเกตว่าความสูงของเราเหมาะสมหรือไม่ ต่ำไปหรือสูงไป หากต่ำไปควรรีบจัดการหาอุปกรณ์ช่วยเสริม เช่น ลังน้ำอัด ขอแนะนำว่าควรหาผ้าคลุมลังด้วยเพราะลังจะมีลักษณะเป็นช่อง เมื่อเราขึ้นไปยืนรองเท้าส้นสูงอาจจะไปติดค้างในช่องได้ หากเราสูงเกินไปอาจจะแก้ไขโดยอะไรรองใต้ขาไมค์โครโฟนก็พอจะช่วยได้ สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างก็คือ บรรดาช่อดอกไม้หน้า Podium อย่าให้บังหน้าตาขณะที่พูดต้องรีบแก้ไขโดยด่วนก่อนทำหน้าที่ บริเวณ Podium มีแสงสว่างพอหรือไม่ต้องตรวจสอบให้เรียบร้อย<br />1.2.4 ศึกษาอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ต้องทดลองดูว่าเสียงชัดเจนหรือไม่ ไมโครโฟนบางแบบบางรุ่นมีคุณภาพต่างกัน เช่น บางรุ่นพูดห่างประมาณ 1 คืบ เสียงได้ยินชัด บางรุ่นต้องดึงมาใกล้ปากเหมือนนักร้องเสียงจึงจะชัดเจน<br />1.2.5 เมื่อตรวจสภาพความพร้อมของบริเวณและอุปกรณ์แล้ว ควรหาแนวร่วม เพื่อส่งเสริมบรรยากาศยอมรับการพูดของเรา นั่นคือ อาจจะหาโอกาสพูดคุยกับผู้คนในงานเพื่อทำความรู้จักและสร้างสายสัมพันธ์ก่อนพูด เมื่อถึงเวลาทำหน้าที่จะช่วยสร้างความคุ้นเคยกันระหว่างผู้พูดและผู้ฟังได้ แต่อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวอาจจะไม่ใช่กับการทำหน้าที่ทุกงาน<br /><span style="color:#ff0000;">2)</span> การเตรียมตัวขณะทำหน้าที่ เมื่อพิธีกรเริ่มทำหน้าที่นับแต่วินาทีแรกจนกระทั่งสิ้นสุดงาน นับเป็นการลงสนามแล้ว ทุกกิริยาอาการ ทุกคำพูด คือ ภาพลักษณ์ของความสำเร็จที่ผู้ฟังผู้ชมสมหวัง ถึงจุดนี้พิธีกรต้องทำอย่างไร เพื่อให้ดูดีที่สุดสูตรสำเร็จก็คือ ต้องทำให้ผู้ฟังผู้ชมรู้สึก “ฟังสบายหู ดูสบายตา และพาสบายใจ” ผู้เขียนมีข้อแนะนำจากประสบการณ์ตรง ดังนี้<br />2.1 เมื่อถึงเวลาต้องพูด การก้าวเดินออกไปยังเวทีหรือจุดที่พูดต้องเดินไปอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ก้มหน้าดูปลายเท้า หรือพื้นขณะเดิน หรือเดินเชิดหน้าคอตั้งจนเกินไป เวลาเดินต้องดูกระฉับกระเฉง แต่ไม่ต้องถึงขนาดวิ่งออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน ยกเว้น บางงานจะกำหนด Script ไว้ การยืนต้องตัวตรงหลังตรง ถ้านั่งพูดก็ต้องนั่งให้สง่าไม่นั่งไขว่ห้าง หรือนั่งแกว่งแข้งขา <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjy-_bSpvE3kl3CIofbDYXtOsGdN9sztfWtg_-PGxwBXTCSMm4y-jrM6bwE2aE8HRGt4uSPePFEJ6hARzp8e7tgNWkEb5M-JSftrlSVKGWoF8LbrAxXbteotD80i3DfAZlNM_ty8NuWpo4/s1600-h/à¹à¸à¸à¸£à¹à¸¡.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377514378281503922" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 231px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjy-_bSpvE3kl3CIofbDYXtOsGdN9sztfWtg_-PGxwBXTCSMm4y-jrM6bwE2aE8HRGt4uSPePFEJ6hARzp8e7tgNWkEb5M-JSftrlSVKGWoF8LbrAxXbteotD80i3DfAZlNM_ty8NuWpo4/s320/%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg" border="0" /></a><br />2.2 หากเป็นไปได้ถ้าต้องยืนพูดที่ Podium ควรนำเอกสารข้อมูลการพูดไปว่างไว้ก่อน เวลาเดินขึ้นไปจะได้ไม่ต้องหอบอะไร พะรุงพะรัง<br />2.3 ขณะพูดต้องมองหน้าผู้ฟังแบบกวาดสายตา ไม่ใช่จ้องอยู่ที่เดียว อย่าก้มอ่านเสียจนไม่เงยหน้า<br />2.4 ต้องระลึกเสมอว่า พิธีกรคือคนพูดคนแรก และคนสุดท้ายของงาน ดังนั้น เมื่อเริ่มทำหน้าที่พิธีกรจะต้องสังเกตปฏิกิริยาของผู้ฟัง ตลอดเวลาว่าผู้ฟังเบื่อหน่ายหรือไม่ พิธีกรต้องหาวิธีการพูดให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นให้ได้ พิธีกรจะต้องยืนอยู่บริเวณใกล้เวทีเพื่อเตรียมทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เช่น พิธีกรกล่าวเชิญประธานมากล่าวเมื่อเขากล่าวจบ พิธีกรต้องเข้าไปทำหน้าที่พูดทันที การปล่อยเวทีให้ว่างเปล่า และเงียบถือเป็นความรับผิดชอบของพิธีกร<br /><strong><span style="color:#ff0000;">เหล่านี้ เป็นเพียงขอแนะนำกว้างๆ เท่านั้น</span></strong> เพราะเมื่อทำหน้าที่จริงๆ จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของพิธีกรในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ความเชี่ยวชาญดังกล่าว เกิดได้จากการศึกษา การฝึกฝนอย่างจริงจัง และด้วยความรักในหน้าที่พิธีกรเท่านั้น</span></span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-80716751244456143912009-09-03T19:27:00.000-07:002009-09-04T01:01:23.010-07:00ความรู้พื้นฐานที่พิธีกรควรรู้<div><div><div><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioZLPxbUocCsexSeCJIPfaH8vY9PHNNiv5uMB23whZplXwTWwLLl92QDxtNAkq828ykTGTp04jpCesYnCnkViWIVN8yiHHCCITOACLj5FAnPviiVtjU49G8Lzx5lhqEEw-yogKbXRVtw8/s1600-h/10.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 144px; FLOAT: left; HEIGHT: 97px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377516964568574834" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioZLPxbUocCsexSeCJIPfaH8vY9PHNNiv5uMB23whZplXwTWwLLl92QDxtNAkq828ykTGTp04jpCesYnCnkViWIVN8yiHHCCITOACLj5FAnPviiVtjU49G8Lzx5lhqEEw-yogKbXRVtw8/s320/10.jpg" /></a> <span style="font-family:arial;color:#000099;">วรรณภา วรรณศรี<br /><br />ในสมัยก่อนเรามักจะได้ยินคำเรียกขานผู้ทำหน้าที่พูดหรือดำเนินรายการสำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่หน่วยงานหรือองค์กรจัดขึ้นว่า “โฆษก” เช่น โฆษกงานวัด โฆษกงานแต่งงานโฆษกสถานีวิทยุ โฆษกโทรทัศน์ เหล่านี้ เป็นต้น<br />ต่อมาโฆษกสถานีวิทยุ หรือโทรทัศน์จะมีคำเรียกว่า “ผู้ประกาศ” แทนโดยสรุปก็คือเราจะได้ยินอยู่ 2 คำนี้ คือ “โฆษก” และ “ผู้ประกาศ” ในระยะหลังๆ จึงปรากฏมีผู้ใช้คำว่า “พิธีกร” เพิ่มมาอีก 1 คำ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เรามาศึกษาดูความหมายของคำทั้ง 3 คำนี้กันสักหน่อย<br /><strong><em><span style="font-size:130%;"></span></em></strong></span></div><div><span style="font-family:arial;color:#000099;"><strong><em><span style="font-size:130%;">โฆษก</span></em></strong> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgWane602H1jXqqx5-FvXJQPLHLaJoRen0W4G-7GE_fMp3d6m2gtl3idUIOG2Ak9sG3vVcW-OhnD64j5p3i5dtRCMbq2aoCzSn_23wNTqzI0wGtJK5WLfpE0RqfZhemeEryYllxsmqQNk/s1600-h/images4.jpg"><img style="MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 91px; FLOAT: right; HEIGHT: 130px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377517311733905618" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgWane602H1jXqqx5-FvXJQPLHLaJoRen0W4G-7GE_fMp3d6m2gtl3idUIOG2Ak9sG3vVcW-OhnD64j5p3i5dtRCMbq2aoCzSn_23wNTqzI0wGtJK5WLfpE0RqfZhemeEryYllxsmqQNk/s320/images4.jpg" /></a><br />“โฆษก” เป็นคำที่มาจากภาษาบาลี-สันกฤตว่า “โฆษก” ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Announcer” หรือ “Spokeman” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายไว้ว่าผู้ประกาศ,ผู้โฆษณา เช่น โฆษณาสถานีวิทยุ : ผู้แถลงข่าวแทน เช่น โฆษกพรรคการเมือง จะเห็นว่า แต่เดิมในบ้านเมืองเรา จะใช้คำว่า “โฆษก” กันเป็นอย่างเดียวเป็นส่วนใหญ่สนามมวย ผู้ประกาศ หรือผู้โฆษณาในทุกงานและทุกอาชีพ เช่น ตามสถานีวิทยุโทรทัศน์ ก็จะเรียกว่า โฆษกวิทยุ โฆษกโทรทัศน์ ผู้ประกาศในการแข่งขันชกมวย ก็เรียกว่า โฆษกสนามมวย ผู้ประกาศตามงานวัดก็เรียกว่า โฆษกงานวัน ผู้ประกาศในงานแต่งงาน ก็เรียกว่า โฆษกงานแต่งงาน สรุปว่าเมื่อต้องประกาศ หรือบรรยายในงานใดๆ ก็จะเรียกว่า โฆษกตามลักษณะของงานนั้น<br /></div></span><div><span style="font-family:arial;color:#000099;">ผู้ทำหน้าที่โฆษกบางครั้งก็จะปรากฏตัวให้ผู้มาร่วมงานเห็น บางครั้งก็จะส่งแต่เสียงออกมาอย่างเดียว โฆษกจะพูดไปได้เรื่อยๆ เท่าที่มีเวลา และอาจจะแทรกความคิดเห็นของตนเพิ่มเติมในการพูดได้ การพูดของโฆษกค่อนข้างอิสระ ยกเว้น โฆษกรัฐบาล หรือโฆษกพรรคการเมือง หรือโฆษกตามตำแหน่งที่หน่วยงานแต่งตั้งขึ้น การพูดจะค่อนข้างเป็นทางการ และต้องปรากฏตัวให้ผู้ฟังเห็นในขณะพูด<br /><strong><em><span style="font-size:130%;"></span></em></strong></span></div><div><span style="font-family:arial;color:#000099;"><strong><em><span style="font-size:130%;">ผู้ประกาศ <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEJjNG20-S7XqCz9Rx6jOSTj_jpLfjWVKsT6YXUvY8piOMgsAB5LepPzR40vKlzmezPCiUqJQEXzrqa5uizf_fULZbmkId9-oeIpnIhx8GCuzWNMj1VJ3yvZV9s24_26LykMfad8r83Ws/s1600-h/images1.jpg"><img style="MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 107px; FLOAT: right; HEIGHT: 119px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377517106983498338" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEJjNG20-S7XqCz9Rx6jOSTj_jpLfjWVKsT6YXUvY8piOMgsAB5LepPzR40vKlzmezPCiUqJQEXzrqa5uizf_fULZbmkId9-oeIpnIhx8GCuzWNMj1VJ3yvZV9s24_26LykMfad8r83Ws/s320/images1.jpg" /></a><br /></span></em></strong>ในส่วนของความหมายโดยตรงไม่มีระบุในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2525 แต่ระบุว่าโฆษก หมายถึงผู้ประกาศ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นำคำว่า “ผู้ประกาศ” มาใช้แทนโฆษก แต่มักจะใช้เรียกโฆษกทางสถานีวิทยุโทรทัศน์มากกว่า เช่น ผู้ประกาศข่าววิทยุ ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ต่อมามักจะเรียกว่า “ผู้อ่านข่าว” ตามลักษณะงานที่ทำ<br /><br />ตามความคิดเห็นของผู้เขียนแล้ว ผู้ประกาศ และโฆษกมีความหมายเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ลักษณะงานที่ทำ นั่นคือ ผู้ประกาศจะทำหน้าที่บอกเรื่องราวเหตุการณ์ที่กำหนดจัดเรียงข้อความตามลำดับมาแล้วเพื่อสื่อให้ผู้ฟังชมทราบ แต่จะไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ เช่น การประกาศรายงานสภาพอากาศ การประกาศรายงานสภาพการจราจร การประกาศข่าวของทางราชการ เป็นต้น ผู้ประกาศจะแสดงตัวให้ผู้ฟังผู้ชมเห็นตัวหรือไม่ก็แล้วแต่สถานการณ์หรือลักษณะงาน<br /><strong><em><span style="font-size:130%;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEil2MeaBjqaVwEAblSAqdW1a2-zFYS8_ppbuRJucZ5Fr2Q3HDkcKGZeCG_zW91yjfASiPTzEW4XwQZvGiM6bLgTSjeyzD384DBquOjD-GHNmEIrMLIH9_RLExw4mTL21gWleDGvEC3DA4E/s1600-h/images.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 108px; FLOAT: left; HEIGHT: 133px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377517824423883474" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEil2MeaBjqaVwEAblSAqdW1a2-zFYS8_ppbuRJucZ5Fr2Q3HDkcKGZeCG_zW91yjfASiPTzEW4XwQZvGiM6bLgTSjeyzD384DBquOjD-GHNmEIrMLIH9_RLExw4mTL21gWleDGvEC3DA4E/s320/images.jpg" /></a></span></em></strong></span></div><div><span style="font-family:arial;color:#000099;"><strong><em><span style="font-size:130%;"></span></em></strong></span> </div><div><span style="font-family:arial;color:#000099;"><strong><em><span style="font-size:130%;">พิธีกร<br /></span></em></strong>พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายไว้ว่า ผู้ดำเนินการในพิธี, ผู้ดำเนินรายการ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Master of Ceremonies” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “MC”<br /><br />จากความหมายดังกล่าวข้างต้น จะเห็นว่า พิธีกรจะต้องทำหน้าที่ดำเนินการตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน ต้องมีความสามารถในการจัดลำดับขั้นตอนของงานได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับบรรยากาศ ลักษณะงานของพิธีกรจึงมีทั้งลักษณะที่เป็นทางการ เช่น พิธีกรในงานพระราชทานเพลิงศพ การสัมภาษณ์บุคคลสำคัญในรายการโทรทัศน์ หรือลักษณะที่ไม่เป็นทางการหรือกึ่งทางการ เช่น พิธีกรดำเนินรายการเกมโชว์ต่างๆ พิธีกรในการประกวดนางงาม พิธีกรในงานแต่งงาน เป็นต้น โดยปกติพิธีกรจะต้องพูดโดยให้ผู้ฟังดูเห็นตัวด้วย<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiF7DbGmu3ohJDaeBTo-LOfMsOSicM41ZhH5-kQAu0z1ulan8_FFT3IJT2MdHp70TDdFmyCI4YoQCqxrPkazTB7xHqf7TXfqgrIAZ59pq6ORkbKTw8ctoWuED-xRdN6m6slL-mt4sWpSI8/s1600-h/P8231606.JPG"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 264px; FLOAT: left; HEIGHT: 191px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377518196766929730" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiF7DbGmu3ohJDaeBTo-LOfMsOSicM41ZhH5-kQAu0z1ulan8_FFT3IJT2MdHp70TDdFmyCI4YoQCqxrPkazTB7xHqf7TXfqgrIAZ59pq6ORkbKTw8ctoWuED-xRdN6m6slL-mt4sWpSI8/s320/P8231606.JPG" /></a>ตามความเห็นของผู้เขียน เห็นว่า โฆษก ผู้ประกาศ และพิธีกร มีความหมายที่คล้ายคลึงกันต่างกันก็ตรงลักษณะงานที่ทำ แต่หากพิจารณาความหมายของพิธีกร แล้วดูจะกินความครอบคลุมคำว่า โฆษก และผู้ประกาศไปด้วย ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า โฆษก และผู้ประกาศ เป็นงานส่วนหนึ่งพิธีกรนั่นเอง<br /><br />ดังนั้น ผู้เขียนจึงระบุในหนังสือนี้ว่า กลยุทธ์การเป็นพิธีกร ซึ่งหมายรวมการทำหน้าที่ของพิธีกรในฐานะโฆษก และผู้ประกาศด้วย</span></div></div></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-9801761352198293112009-09-03T19:18:00.000-07:002009-09-04T01:25:25.808-07:00เทคนิคในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับพิธีกร<div><div><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjYbq7s7eGwksZ5LqSGDAARVkUbIfwxThupU55nTNaaCNh8D-GDsASj8u6Xe0Bgly9TiK6k1iVQq5BOYFG079nWJzlgN-DnF3wbYQk_Lwm-8yn66URHme-O8h4E0WQwUQACaGaJ4j76g4/s1600-h/100_2553.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 247px; FLOAT: left; HEIGHT: 185px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377523887887054178" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjYbq7s7eGwksZ5LqSGDAARVkUbIfwxThupU55nTNaaCNh8D-GDsASj8u6Xe0Bgly9TiK6k1iVQq5BOYFG079nWJzlgN-DnF3wbYQk_Lwm-8yn66URHme-O8h4E0WQwUQACaGaJ4j76g4/s320/100_2553.jpg" /></a> <span style="font-family:arial;"><span style="color:#000099;">วรรณภา วรรณศรี</span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">ในการทำหน้าที่พิธีกรย่อครั้งที่ผู้เขียนต้องพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และต้องแก้ไขเหตุการณ์เหล่านี้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องทำหน้าที่พิธีกร จึงรวบรวมเทคนิคในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นแนวทางสำหรับทุกท่าน ดังนี้</span><br /><br /><span style="color:#000099;">เมื่อถึงเวลาแล้วประธานหรือผู้พูดยังมาไม่ถึง </span><br /><span style="color:#000099;">หน้าที่ของพิธีกรจะต้องไม่ให้เกิดความเงียบบนเวที ถ้าเลยเวลาไม่ไม่นากนัก พิธีกรก็อาจจะพูดชี้แจงรายละเอียดต่างๆรวมทั้งอาจจะมีเรื่องราวสนุกสนานมาเล่าถ่วงเวลาไว้ก่อน(พิธีกรจึงต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขัน) แต่ถ้านานเสียจนผู้ฟังเริ่มกระสับกระส่าย อาจจะจัดกิจกรรมให้ผู้ฟังได้เคลื่อนไหวบ้าง เช่น การปรบมือ การร้องเพลง ขณะเดียวกันต้องรีบให้ฝ่ายจัดงานเร่งแก้สถานการณ์ทันที</span><br /><br /><span style="color:#000099;">เมื่อเครื่องเสียงไม่เป็นใจ </span><br /></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000099;">เป็นเรื่องแปลกแต่จริงเครื่องเสียงโดยเฉพาะไมค์โครโฟน เวลาทดสอบก็ดูจะให้ความร่วมมือดี แต่พอถึงเวลาเอาจริงก็มักจะมีเสียงหอน...พูดแล้วเสียงขาดหาย...พูดแล้วไม่มีเสียงออกพิธีกรต้องยิ้มเข้าไว้และเมื่อทุกอย่างปกติก็อาจจะใช้ละลาการพูดช่วยคลี่คลายบรรยากาศ เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนไปทำหน้าผู้เขียนไปทำหน้าที่พิธีกรในการอบรมสัมมนา ซึ่งมีวิทยากรพิเศษมาให้การบรรยาย พอถึงเวลาปรากฏว่าไมค์โครโฟนใช้ไม่ได้ เป็นอยู่พักใหญ่กว่าจะแก้ไขได้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผู้เขียนเลยพูดนำร่องก่อนเชิญวิทยากรขึ้นพูดว่า “แหม วันนี้พวกเรารอคอยมานานกว่าจะได้คิวจากท่านวิทยากรเพราะเรื่องราวที่ท่านจะพูดคุยกับพวกเราเป็นเรื่องที่ Hot ที่สุด ไม่นึกเลยว่าไมค์โครโฟนจะตกใจเพราะความ Hot จนสายไหม้่ก่อนที่ท่านวิทยากรจะได้พูดเสียอีก (ฮา...) ขณะนี้ไมค์โครโฟนก็ปรับตัวเรียบร้อยแล้ว ขอเรียนเชิญท่านวิทยากรในลำดับนี้ลยค่ะ <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjg7__g93PEiE30YeUKQP1XOgP6_F2m57Nd6ZITWPqI_YtCZSYl1gWONRwghehAP12oB15xnUeeRo9yZ_aJBqoeKGJjAYb8cUCRe-nZt-9EtFU2T87EDFrKbu-PkL0OygV4HXNjXQmT-Fk/s1600-h/IMG_0418.jpg"><img style="MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 291px; FLOAT: right; HEIGHT: 187px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377524161887716002" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjg7__g93PEiE30YeUKQP1XOgP6_F2m57Nd6ZITWPqI_YtCZSYl1gWONRwghehAP12oB15xnUeeRo9yZ_aJBqoeKGJjAYb8cUCRe-nZt-9EtFU2T87EDFrKbu-PkL0OygV4HXNjXQmT-Fk/s320/IMG_0418.jpg" /></a><br /></span><br /><span style="color:#000099;">เมื่อพิธีกรอ่านข้อความผิด </span><br /><span style="color:#000099;">“สี่เท้ารู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” เป็นความจริงเสมอ ถึงแม้ว่าท่านจะเชี่ยวชาญเพียงใดโอกาสพลาดย่อมมี และเมื่อเป็นเช่นนี้ท่านจะทำอย่างไร สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือท่านต้องตั้งสติให้ดี หากอ่านผิดก็ให้เอ่ยคำว่า “ขออภัยค่ะ” ไม่ใช่ “อุ๊ย ขอโทษ” หรือบางกรณีอาจต้องใช้ไหวพริบ เช่น มีอยู่คราวหนึ่งผู้เขียนเป็นพิธีกรโดยในงานมี คุณชาญศักดิ์ ชวลิตนิติธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี มาร่วมงานด้วย ผู้เขียนตั้งใจจะเอ่ยชื่อท่าน แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบกลับพูดว่า “...นอกจากนี้ก็มีคุณวิสิทธิ์ ชวลิตนิิติธรรม (เิิอ่ยชื่อคุณพ่อของท่านแทน)...” พอพูดออกไปแล้วจึงนึกได้ว่าพลาดไปแล้ว ก็เลยรีบแก้ไขทันทีว่า ” ...นายกสมาคมสว่างบริบูรณ์ฯซึ่งกำลังเดินทาง แต่ขณะนีุ้คุณชาญศักดิ์ ชวลิตนิติธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี ในฐานะคนของประชาชนเดินทางมาถึงก่อน”</span><br /><br /><span style="color:#000099;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGQhLmMjRSuheisWJjsyudK2trZQFcfBC5Re5IJiopZGdStqqznBVH_mVAqhdxtvnf_CurXCrvlerxbecXJIdMEUhc5qze8khpPqPtZje5ikk06yr7-K_Eoz_K9Tr5IwA1L7mWmptEfPs/s1600-h/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A71.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 263px; FLOAT: left; HEIGHT: 202px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377524457183446930" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGQhLmMjRSuheisWJjsyudK2trZQFcfBC5Re5IJiopZGdStqqznBVH_mVAqhdxtvnf_CurXCrvlerxbecXJIdMEUhc5qze8khpPqPtZje5ikk06yr7-K_Eoz_K9Tr5IwA1L7mWmptEfPs/s320/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A71.jpg" /></a>เมื่อผู้ฟังออกอาการ...ไม่ฟัง...เบื่อ...หลับ </span><br /><span style="color:#000099;">ในงานบางงานผู้ฟังหรือผู้ชมก็ช่างไม่ให้ความร่วมมือเสียเลย ผู้เขียนจะใช้วิธีดึงความสนใจด้วยการ ร้องเพลง เล่าเรื่องขบขัน แต่ไม่ใช่เรื่อตลกมาก ท่านต้องแยกให้ออกระหว่างเรื่องขบขันกับเรื่องตลก หรือบางทีอาจจะร้องลำตัด ร้องลิเกสอดแทรกขึ้นมา หรืออาจจะให้ผู้ฟังลุกขึ้นขยับแข้งขาด้วยการออกำลังกายดูบ้างก็ช่วยได้มาก</span><br /><br /><span style="color:#000099;">เมื่อต้องเป็นพิธีกรจำเป็น </span><br /><span style="color:#000099;">อันที่จริงเราก็คุ้นเคยกับการเป็นพิธีกรกันอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนเคยเจอสถานการณ์ ต้องเป็น “พิธีกรจำเป็น” คือในงานบางงานเราไปในฐานะผู้ร่วมงานแต่พอถึงเวลาเจ้าภาพจะเข้ามาบอกว่า “ช่วยหน่อยนะ ช่วยเป็นพิธีกรให้พี่หน่อย” ถ้าถามความรู้สึกจริงๆ ผู้เขียนก็สุดจะเซ็งกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่วิธีแก้ไขก็ต้องยิ้มเข้าไว้ การปฏิเสธคงเป็นไปได้ยาก แล้วรีบสอดส่ายสายตาหาบุคคลที่สามซึ่งเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับการพูดให้พูดแทนโดยอาจจะแนะนำเจ้าของงานว่า “วันนี้ตั้งใจมาแสดงความยินดีกับพี่แล้วก็จะรีบกลับ เพราะติดงาน(แล้วแต่จะอ้างให้ดูสมเหตุสมผล) จะอยู่พูดให้ได้ไม่ตลอดพี่ลองไปเชิญคุณ... ช่วยพูดดีไหมคะ นั่นไงคะนั่งอยู่ตรงนั้น” แล้วก็ทำท่าทางของท่านให้เร่งรีบเพื่อขอตัวกลับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ต้องทำใจ.....ช่วยกันหน่อยก็แล้วกัน คิดเสียว่า หากเขาไม่ไว้ใจเราเขาก็คงไม่ให้เราเป็นพิธีกร เพราะฉะนั้นก็ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน... แต่็ก็หวังว่าอย่าได้เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนักเลย</span> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUJNvluRjjxKIwmhdulti-Hsd3EQsdb7kd5GsvfwWbNcxGg1aJaAIOFX5mEdVZacYebbH9_-Xv7CG6LJkIXBnSmwiJUuuRmEKZZkCrZhBiLVchjds_fS3Q9m3P17cCvpZceGIy_HfT-DI/s1600-h/DSC03468.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 279px; FLOAT: left; HEIGHT: 203px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377525059727347042" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUJNvluRjjxKIwmhdulti-Hsd3EQsdb7kd5GsvfwWbNcxGg1aJaAIOFX5mEdVZacYebbH9_-Xv7CG6LJkIXBnSmwiJUuuRmEKZZkCrZhBiLVchjds_fS3Q9m3P17cCvpZceGIy_HfT-DI/s320/DSC03468.jpg" /></a><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">ทั้งหมดที่เล่าสู่กันฟังนี้ เป็นเพียงปัญหาเฉพาะหน้าที่พิธีกรทุกคนมักจะต้องมีโอกาสพบบ่อยที่สุด ความจริงยังมีปัญหาปลีกย่อยอีกมากมาย แต่จะไม่ขอนำมากล่าวไว้ ก็เลยตัดสินใจเลือกเฉพาะปัญหาที่ทุกท่านจะมีโอกาส พบมากที่สุดมาฝากไว้</span></span></div></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-40693893777569896222009-09-03T07:04:00.000-07:002009-09-03T09:00:49.617-07:00การสร้างบุคลิกภาพของพิธีกรเพื่อให้เป็นที่ประทับใจ<span style="color:#990000;"><span style="color:#cc0000;">วรรณภา วรรณศรี</span> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhAtalk285jhbjH9Pv_gyl0Vhqf82qFZewUYRdGK1p-PgvO7ReaPQblBU5tQKTBp-JXq8VJUroa0amSqkEWzRnnhfAMPESxRVYYrx_0jrtifKOFx8lRB77bPho8dxPXA-VdB9RN6NcvoZc/s1600-h/image012121313.jpg"><span style="color:#990000;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377263209008382050" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 276px; CURSOR: hand; HEIGHT: 174px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhAtalk285jhbjH9Pv_gyl0Vhqf82qFZewUYRdGK1p-PgvO7ReaPQblBU5tQKTBp-JXq8VJUroa0amSqkEWzRnnhfAMPESxRVYYrx_0jrtifKOFx8lRB77bPho8dxPXA-VdB9RN6NcvoZc/s320/image012121313.jpg" border="0" /></a><br /><span style="color:#009900;"><br />ที่ต้องนำเรื่องขึ้นมาเขียนก่อนก็เป็นเพราะด่านแรกที่ผู้คนจะนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่า คนแต่ละคนเป็นอย่างไร น่าเลื่อมใสศรัทธาน่าคบหาสมคมด้วยหรือไม่นั้น ก็มักจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพที่ได้พบเห็นกันเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะเป็นข้อมูลที่อาจไม่ถูกต้องกับความเป็นจริงมากนักก็ตาม แต่บุคลิกภาพ ก็คือ ภาพลักษณ์ หรือภาพที่ผู้อื่นนึกคิดหรือคาดหวังว่าเราน่าจะเป็นโดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่พิธีกร ประกอบกับพิธีกรจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยปรากฏกายให้สาธารณชนได้เห็นขณะพูดด้วย ดังนั้น พิธีกรทุกคนจึงควรให้ความสนใจภาพลักษณ์ของตนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะก้าวสู่สาระของการพูด<br />สมปราชญ์ อัมมะพันธ์ (ม.ป.ป. : 58) กล่าวว่า <span style="color:#cc0000;">ความจริงการพูดเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพ และในขณะเดียวกันบุคลิกภาพก็เป็นหัวใจห้องสำคัญของการพูด ผู้พูดที่ดีจึงต้องปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดีเพื่อจูงใจผู้ฟังให้เกิดความสนใจ<br /><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><br /><span style="color:#009900;">ด้วยเหตุนี้ พิธีกรจึงต้องใส่ใจกับการเสริมสร้าง และพัฒนาบุคลิกภาพของตนอยู่เสมอเพราะบุคลิกภาพที่ดูดีย่อมสามารถดึงดูดใจให้ผู้ฟังผู้ชมติดตามเรื่องราวหรือรายการที่พิธีกรกำลังดำเนินการได้เป็นอันดับแรก<br />บุคลิกภาพมิใช่เป็นเรื่องของร่างกายภายนอกเท่านั้น หากแต่หมายความถึง ทุกส่วนทุกสิ่งที่รวมตัวตนของมนุษย์ นั่นคือร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สติปัญญาของบุคคลนั้นๆ ในส่วนของบุคลิกภาพ แบ่งเป็น 4 ด้าน เพื่อสะดวกแก่การศึกษา ดังนี้<br /></span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhS5yKfMZGAvJRjA6IHyql0Kcrpq510t6VeuqpTn95PVo_JbuJ7UX15qre_4tT43LwHdGIcVzAuGQZjRucCi0IOOVYmpl2fCDVsHNYnnNtdN-rHaHg1SfzVoMy4W7yUG0f-LjQsn-c526g/s1600-h/[LookMiM]20081119-053.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377262439942993186" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 213px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhS5yKfMZGAvJRjA6IHyql0Kcrpq510t6VeuqpTn95PVo_JbuJ7UX15qre_4tT43LwHdGIcVzAuGQZjRucCi0IOOVYmpl2fCDVsHNYnnNtdN-rHaHg1SfzVoMy4W7yUG0f-LjQsn-c526g/s320/%5BLookMiM%5D20081119-053.jpg" border="0" /></a> </span></span></span></span></span></span><br /><span style="color:#990000;"><span style="color:#990000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;">ด้านร่างกาย</span><br />ด้านร่างกาย หมายถึง รูปร่างและหน้าตา ทั้งนี้ เนื่องจากพิธีกรต้องพูดโดยให้ผู้ฟังได้เห็นหน้าตาไปพร้อมขณะที่พูด ดังนั้น รูปร่างหน้าตาจึงนับเป็นประตูแรกในการเปิดใจผู้ฟัง แต่ ไม่ได้หมายความว่า พิธีกรต้องเป็นคนสวยหรือคนหล่อ ยกเว้น พิธีกรทางรายการโทรทัศน์ หรือพิธีกรบางรายการที่เน้นด้านรูปร่างหน้าตา เช่น พิธีกรการประกวดนางงาม เป็นต้น หากเราไม่สามารถเป็นได้อย่างที่ต้องการจะเป็นก็ขอให้คนหน้าตาสะอาดสดชื่อ ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นนิจเป็นมิตรกับทุกคน พิธีกรต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ตั้งแต่เส้นผม ผิวหนัง ผิวหนัง เล็บ ความสะอาดของร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก ผมสะอาดหรือไม่เป็นรังแค กลิ่นกายต้องสะอาด กลิ่นปากต้องสะอาด เล็บมือ เล็บเท้าต้องดูแลให้เรียบร้อย พยายามอย่าให้เป็นหวัดบ่อย เพราะโรคนี้เป็นอุปสรรคต่อหน้าที่ของพิธีกรเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องใช้เสียงเป็นปัจจัยสำคัญ พิธีกรที่พูดไปกระแอมกระไอไป หรือพูดๆ ไป เสียงขาดเป็นช่วงๆ หรือเสียงแหบแห้ง ล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างยิ่ง<br /><br />ส่วนสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง คือ พิธีกรต้องมีอารมณ์ดี สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองให้อยู่ในสภาพมั่นคงได้ทุกสถานการณ์ หากเราควบคุมอารมณ์ของเราไม่ได้ เราจะเสียพลังแห่งศักยภาพในการควบคุมคนฟังไปทันที<br /></span><span style="color:#ff0000;"><br /><span style="color:#ff0000;">วิธีการเสริมสร้างบุคลิกภาพด้านร่างกาย ที่ผู้เขียนใช้มาตลอดและได้ผลดี มีดังนี้<br /><span style="color:#009900;">1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เสี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด ดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำหรือไม่ก็ดื่มน้ำไม่เย็น เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ วิธีนี้จะช่วยสถนอมรักษาสุขภาพของน้ำเสียงให้มีความคงเส้นคงวาไม่แหบแห้ง <span style="color:#009900;">2. หมั่นออกกำลังการเป็นนิจ โดยเน้นการออกกำลังกายที่เหมาะกับวัย และความพร้อมของร่างกาย<br />3. นอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง โดยเฉพาะก่อนวันที่จะต้องทำหน้าที่พิธีกรรายการสำคัญๆ<br />4. รักษาอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ โดยการจัดช่วงเวลาสำหรับชีวิตแต่ละวันปล่อยพักอารมณ์ด้วยการฟังเพลงบรรเลงเบาๆ แล้วปล่อยใจสบายๆ เวลาที่จะเป็นช่วงตื่นนอนตอนเช้า ประมาณ 15 นาที และก่อนนอนประมาณ 15 นาที แล้วก็ปล่อยให้ร่างกายหลับไปในเสียงเพลง ทำเช่นนี้ เรื่อยๆ สม่ำเสมอ จะเกิดการทับทวีของการเป็นผู้มีอารมณ์ดีได้อย่างน่าประหลาดใจ<br />5. ศึกษาวิธีการแต่งหน้า แต่งผม เพื่อใช้ในการดึงจุดเด่น และเสริมจุดด้อยของตนเองเพราะโบราณก็บอกไว้ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ท่านคงเคยชมพิธีกรบางรายการ ที่มีรูปร่างอ้วนกลมแถมเตี้ย หน้าตาก็ใช้ว่าจะโดดเด่น แต่เธอก็สามารถดึงจุดเด่นของรูปร่าง และหน้าตาออกมาสู่สายตาประชาชนได้ด้วยศิลปการแต่งหน้าแต่งผม บวกกับลีลาการพูดที่ฟังสนุกสนานเป็นกันเองจนเป็นที่ยอมรับ เช่น คุณสุริวิภา กุลตังวัฒนา พิธีกรรายการสมาคมชมดาว เป็นต้น<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib5IlY5K_VOfOAqrncEcH4tSmSCnEmYLe-5U3JCpQWcGPsx0RbJ6lOJ3JpRgO294vVWKzfgg9vWh83FE99Q09aCeuSH4cYBZlunabwEBC58dLkuQk-BUGSGZyxcX7fchZ5zy56OTrV05U/s1600-h/147884_2483419.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377264002491123810" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 223px; CURSOR: hand; HEIGHT: 293px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib5IlY5K_VOfOAqrncEcH4tSmSCnEmYLe-5U3JCpQWcGPsx0RbJ6lOJ3JpRgO294vVWKzfgg9vWh83FE99Q09aCeuSH4cYBZlunabwEBC58dLkuQk-BUGSGZyxcX7fchZ5zy56OTrV05U/s320/147884_2483419.jpg" border="0" /></a><br /><span style="color:#ff0000;">ด้านการแต่งกาย<br /></span><span style="color:#3333ff;"><span style="color:#009900;">ด้านการแต่งกาย หมายรวมถึง เสื้อผ้า เครื่องประดับจนกระทั่งถุงน่อง รองเท้า การแต่งกายเป็นภาพลักษณ์แรกที่คนจะใช้ตัดสินว่าบุคคลผู้นั้นมาจากสังคมระดับใด มีรสนิยมแบบไหนคนบางคนเป็นคนธรรมดาๆ แต่การแต่งกายของเขาทำให้เขาดูมีสง่าราศีขึ้นมาสร้างความน่าเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น แต่บางคนเป็นผู้มีทั้งการศึกษาและอยู่ในแวดวงระดับสังคมชั้นสูง แต่การแต่งเนื้อแต่งตัวกลับไม่ส่งเสริมคุณค่าเหล่านั้นเลย หรือบางคนก็ประดับตกแต่งเสียจนหาจุดเด่น ไม่ได้ดูเปื้อนเปรอะเลอะเทอะไปหมด เราควรจะแต่งกายอย่างไรที่เป็นการเสริมบุคลิกภาพในฐานะที่เป็นพิธีกร ขอแนะนำว่ายึดหลักความพอดี อาจมีคำถามต่ออีกหว่าแล้วอย่างไรจึงจะเรียกว่า พอดี ขอให้ท่านวางแผนว่าลักษณะงาน ลักษณะสถานที่ และรูปแบบของการจัดงานที่จะต้องไฟพูดเป็นแบบไร เช่น เป็นพิธีกรงานแต่งงานก็ควรจะคาดคะเนให้ได้ว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่งตัวแบบไหน พิธีกรก็ไม่ควรแต่งล้ำหน้าคู่บ่าวสาวไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือสีสันของเสื้อผ้า ถ้าเป็นงานที่เป็นทางการสุภาพสตรีก็ควรจะสวมกระโปรงเป็นหลักไว้ก่อน เพราะกระโปรงสามารถไปในงานเป็นทางการและไม่เป็นทางการก็ได้ เหล่านี้เป็นต้น<br /></span><br /></span><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;">การดูแลตนเองด้านการแต่งกายสำหรับพิธีกร ขอแนะนำเป็นแนวทางไว้ ดังนี้<br /></span>1. หมันสังเกตการณ์แต่งกายของผู้คนรอบข้างในงานสังคมต่างๆ รวมทั้งสังเกตการณ์แต่งกายของพิธีกรตามรายการต่างๆ ทางโทรทัศน์ แล้วนำประยุกต์ใช้กับตัวเรา โดยยึดหลักความเหมาะสมกับตนเองทั้งด้านวัย และสถานการณ์ ทั้งนี้ควรคำนึงถึงควรคำนึงถึงหลักประหยัดไว้ได้ก็จะเป็นการดี<br />2. ศึกษาหาความรู้ด้านการแต่งกายจากหนังสือแม็กกาซีนต่างๆ<br />3. ควรจัดหาเครื่องแต่งกายที่สามารถประยุกต์ปรับแต่งให้สามารถใช้ได้กับงานหลายๆ ลักษณะ เพราะจะช่วยให้สิ้นเปลืองน้อยลง โดยเฉพาะพิธีกรที่ไม่มีผู้สนับสนุนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหมายความว่ามักถูกเชิญไปพูดหรือได้รับมอบหมายให้พูดทุกอย่างต้องจัดหาเอง เสื้อผ้าจึงต้องพยายามเป็นแบบอเนกประสงค์ สีควรเป็นแบบเรียบ ๆ สีออกดำ หรือน้ำเงินจะช่วยให้ปรับเข้ากับเสื้อผ้าสีอื่นๆ ได้ง่าย รองเท้าก็ควรเป็นแบบหุ้มส้นสีออกดำ หรือน้ำตาลเข้มจะดีที่สุดเพราะจะเข้าได้กับเสื้อผ้าทุกสี<br />4. พิธีการไม่ควรประดับเครื่องประดับมากมายเต็มเนื้อเต็มตัว เพราะจะทำให้จุดสนใจของผู้ฟังหรือผู้ชมไปอยู่ที่เครื่องประดับมากกว่าสาระและลีลาการพูด ตรงนี้จะเป็นการฉุดดึงบุคลิกภาพและความสำเร็จของการพูดไปอย่างน่าเสียดาย <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjdOV988wf-c9csltMexM-k5zjSfERjyWwPaxQcSGmxpb2drQAjOHnki1mzYN4S1ch1lHBmPz-tls5QywII3Kxu5F1J3GBkkGBT_x-D7LlnlwKVrJkuFJI6t-ErMfZDZ4_oZu0-2dQJV9c/s1600-h/รูปสวย.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377265260384579858" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 220px; CURSOR: hand; HEIGHT: 274px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjdOV988wf-c9csltMexM-k5zjSfERjyWwPaxQcSGmxpb2drQAjOHnki1mzYN4S1ch1lHBmPz-tls5QywII3Kxu5F1J3GBkkGBT_x-D7LlnlwKVrJkuFJI6t-ErMfZDZ4_oZu0-2dQJV9c/s320/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2.jpg" border="0" /></a><br /><br /><span style="color:#ff0000;">พฤติกรรมที่แสดงออก<br /><span style="color:#009900;">พฤติกรรมที่แสดงออก หมายถึง พฤติกรรมต่างๆ ที่ประมวลจากพฤติกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ทำหน้าที่พิธีกร ซึ่งขอแยกออกเป็น 3 ประการใหญ่ๆ ดังนี้<br />1. การใช้กิริยาท่าทาง ซึ่งรวมการยืน การเดิน การนั่ง การทรงตัว การใช้สีหน้า การใช้สายตา การใช้ท่าทางประกอบการพูด พิธีกรต้องตระหนักเสมอว่า พิธีกรคือจุดเด่นของงานเพราะฉะนั้นทุกสายตาจะจ้องมาที่ตัวท่าน การเคลื่อนไหวของท่านทุกๆ อิริยาบถจะมีผลต่อความสำเร็จในการพูดของท่าน<br />2. การใช้ภา การพูดจาชัดถ้อยชัดคำถูกต้องตามอักขรวิธี เหมาะกับสถานการณ์และวัฒนธรรมองค์กรนั้น จะช่วยเสริมสร้างการพูดของท่านได้อย่างดีถึงแม้ว่าท่านอาจจะไม่ใช่ผู้มีรูปร่างหน้าตาสวยหล่อจนสะดุดตา<br />3. การใช้น้ำเสียง เรื่องของนี้เสียงดูจะเป็นสิ่งที่อิทธิพลสูงต่อความสำเร็จของพิธีกร เพราะพิธีกรมิใช่เป็นเพียงผู้ทำหน้าที่อ่าน หรือประกาศเท่านั้น การรู้จักใช้น้ำเสียงเหมาะกับจังหวะการพูด สอดคล้องกับเรื่องราวที่พูดจะช่วยผลักดันอารมณ์ของผู้ชมให้คล้อยตามได้อย่างดี และจะทำให้พิธีกรสามารถควบคุมบรรยากาศของงานได้โดยสิ้นเชิง<br /><br />ในส่วนของพฤติกรรมที่แสดงออกนั้น จะขอแนะนำไว้ในที่นี้ โดยสังเขปว่า พิธีกรต้องหมั่นสังเกตตนเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาปรับพฤติกรรมของตนเองให้ดียิ่งขึ้น สำหรับรายละเอียดจะกล่าวถึงในบทต่อๆ ไป แต่จะขอฝากข้อคิดตามข้อเขียนของ วิจิตร อาวะกุล (2545) ว่า<br /></span><br /><span style="color:#cc0000;">บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงได้ พัฒนาได้ สร้างเสริมได้ แก้ไขปรับปรุงได้ เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณสมบัติและคุณภาพของบุคคลให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไปได้ รวมทั้งให้มีความสามารถเหมาะสมกับสถานะตำแหน่งหน้าที่การงานและวิชาชีพได้ โดยใช้เทคนิค หลักการ วิธีการ ความรู้ในการพัฒนาบุคลิกภาพไปพัฒนาตนเอง เพื่อที่จะได้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ....<br />....และการที่จะสร้างให้เป็นคนมีบุคลิกภาพดีทันทีทันใดนั้น ก็ทำได้ยาก ผู้ที่มีบุคลิกดีจึงต้องศึกษาเรียนรู้หลักเกณฑ์ วิธีการ ฝึกฝนพัฒนาในชีวิตตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดบุคลิกภาพที่ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนเกิดเป็นพฤติกรรมที่ถาวรตลอดไป<br /><br /><br /></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span><span style="color:#990000;"><span style="color:#990000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#cc0000;"></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span><span style="color:#990000;"><span style="color:#990000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#cc0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#009900;"><span style="color:#ff0000;"><span style="color:#cc0000;"></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-45808951623221430522009-09-03T06:54:00.000-07:002009-09-04T06:17:35.737-07:00เทคนิคการใช้ภาษา<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhbW5N1r3B0gqkKRDgajO2w_CeJkZAjmaAxR7xTSGu6r7YV_rVsEleB0LfrqUpVDt61eNOr7REcEBtNRNK2aXaUBldQk-7vwBxNTbah6rq0m8NJEbhM6EL8OnJ1FRxUGU8z4t_Tda5Pujs/s1600-h/CAR5MFOK.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377598487748928290" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 112px; CURSOR: hand; HEIGHT: 144px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhbW5N1r3B0gqkKRDgajO2w_CeJkZAjmaAxR7xTSGu6r7YV_rVsEleB0LfrqUpVDt61eNOr7REcEBtNRNK2aXaUBldQk-7vwBxNTbah6rq0m8NJEbhM6EL8OnJ1FRxUGU8z4t_Tda5Pujs/s320/CAR5MFOK.jpg" border="0" /></a><br /><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">วรรณภา วรรณศรี<br /><br />ความจริงเรื่องการใช้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกกำหนดโดยหลักเกณฑ์และระเบียบวิธีใช้อยู่แล้วตามลักษณะของการใช้ แต่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงวิธี ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมทั้งกับบุคคล สถานที่ และเวลาโดยเฉพาะผู้ทำหน้าที่พิธีกร ทั้งนี้ โดยหมายรวมทั้งภาษาพูดและภาษาท่าทาง <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiYJy-DgGQWCBq_RcvHYHoxD5dFl0XQfMWoiJ0GFr7Jz8d5wp-fCKrEpjEmL40Y8XwzvjzeeIM66JLZ2D6q3GvWBTkZkE4d2kF6MaQPACGs7jgraVxJyswsvQI4DMsk582e4UKxMr4jDQg/s1600-h/CAK93ATB.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377598931499098754" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 147px; CURSOR: hand; HEIGHT: 118px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiYJy-DgGQWCBq_RcvHYHoxD5dFl0XQfMWoiJ0GFr7Jz8d5wp-fCKrEpjEmL40Y8XwzvjzeeIM66JLZ2D6q3GvWBTkZkE4d2kF6MaQPACGs7jgraVxJyswsvQI4DMsk582e4UKxMr4jDQg/s320/CAK93ATB.jpg" border="0" /></a><br /></span><br /><div><div><div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">ภาษาที่จะต้องใช้จะแบ่งออกเป็นดังนี้ <br />1) คำราชาศัพท์<br />2) ภาษาทางราชการ<br />3) ตัวย่อต่างๆ<br />4) ชื่อเฉพาะ<br />5) ศัพท์เทคนิคเฉพาะทาง<br />6) ภาษาแสลงต่างๆ<br /><br />ในที่นี้จะไม่อธิบายละเอียดว่า ภาษาประเภทที่กล่าวถึงแต่ละอย่างน้อยจะมีวิธีใช้อย่างไร แต่จะขอนำเสนอวิธีกรที่จะส่งเสริมให้ท่านในฐานะพิธีกรได้พัฒนาการใช้ภาษาไ้ด้อย่างถูกต้อง สิ่งหนึ่งท่านจะต้องคำนึงเสมอก็คือผู้ฟังหรือผู้ชมมักจะคาดหวังว่าท่านคือผู้รอบรู้ในการพูดแบะเป็นแม่แบบของการพูดมิฉะนั้นท่านคงจะไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นพิธีกร แล้วท่านควรจะสร้างภาพลักษณ์ของตนเองในการใช้ภาษาอย่างไร<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLbXo25R9jr1v11tb6Pmw8SMdFmLrenjsomnzFj86u2Tparprn-PNrEcuqQitDvMQ2VxrfJ6R3YMOtUNiHU46wbwFUoTGnXfqwtvNtggiVuhWaMTsHebHc8k3nFqJ1a-2nUbi_Nnc2ePY/s1600-h/CA6TYL0V.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377599328753406258" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 148px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLbXo25R9jr1v11tb6Pmw8SMdFmLrenjsomnzFj86u2Tparprn-PNrEcuqQitDvMQ2VxrfJ6R3YMOtUNiHU46wbwFUoTGnXfqwtvNtggiVuhWaMTsHebHc8k3nFqJ1a-2nUbi_Nnc2ePY/s320/CA6TYL0V.jpg" border="0" /></a><br />สำหรับผู้เขียนแล้วจะใช้วิธีการดังนี้<br />1) จะต้องมีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับปัจจุบันที่สุด และพจนานุกรมภาษาอังกฤษ (Dictionary) ประจำโต๊ะทำงานและที่บ้านเพื่อพร้อมที่จะค้นคว้าเมื่อมีปัญหาด้านการอ่าน การเขียน หรือความหมายของคำ<br />2) จะต้องมีหนังสือเกี่ยวกับการใช้ราชาศัพท์ การอ่านคำย่อ การอ่านชื่อเฉพาะต่างๆไว้ประกอบการค้นคว้า<br />3) ผู้เขียนจะมีแฟ้มส่วนตัวเืพื่อรวบรวมสาระสำคัญต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพูดไว้ชื่อว่า แฟ้มล้วนสาระ ในแฟ้มจะเก็บรายละเอียดหลากหลายที่เห็นว่ามีคุณค่า เช่น การจัดขบวนเครื่องสูงสมัยโบราณ ประวัติกีฬาแหลมทอง Script การจัดงานต่างๆทั้งนี้เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นคลังข้อมูลในการใช้ภาษาได้เป็นอย่างดี<br />4) ต้องเป็นคนทันสมัยเสมอนั่นคือต้องรู้ความเคลื่อนไหวของโลก ของสังคมว่าขณะนี้มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อโลกเปลี่ยนไปวิวัฒนาการของภาษาก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น ภาษาของวัยรุ่นก็จะมีศัพท์แปลกเพิ่มมากขึ้นเมื่อไปพูดกับคนกลุ่มใดจะได้หยิบมาใช้เป็นสีสันในการพูดได้บ้าง<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhe23TC0MUwle3OpVBPUMXL6JxWZM8xoltE9ax1479n4gGi8UBFnSQxIUdDkULMqM3Ge1rLIX6_KpqAT-BCyseOsX3ieXAEqq1FI6hbTMJaJlnAGSBPEP8J9VDXIm6sXQvQQ8ynsHDiMzI/s1600-h/CAI28ME3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377599558471864178" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 107px; CURSOR: hand; HEIGHT: 147px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhe23TC0MUwle3OpVBPUMXL6JxWZM8xoltE9ax1479n4gGi8UBFnSQxIUdDkULMqM3Ge1rLIX6_KpqAT-BCyseOsX3ieXAEqq1FI6hbTMJaJlnAGSBPEP8J9VDXIm6sXQvQQ8ynsHDiMzI/s320/CAI28ME3.jpg" border="0" /></a><br />ข้อแนะนำในการใช้ภาษา<br />1) เวลาพูดหากมีคำราชาศัพท์ เช่น โปรดเกล้าฯ ต้องอ่านว่า โปรดเกล้ากระหม่อม เป็นต้น 2) หากเป็นคำย่อต้องพูดเป็นคำเต็ม เช่น น.ส.วรรณภา วรรณศรี ต้องพูดว่า </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">นางสาว...................ส.ส.ต้องพูดว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น<br />3) หากเป็นชื่อเฉพาะต้องอ่านตามที่เจ้าของชื่อระบุ เช่น นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย หากพิจารณาตามหลักภาษาไทย คำว่า “สุรเกียรติ์” มีตัวการันต์ บังคับอยู่บน”ติ” แสดงว่าไม่ต้องออกเสียง โดยมี “ติ” สะกด ซึ่งน่าจะอ่านว่า “สุ-ระ-เกียน” แต่เป็นชื่อเฉพาะเจ้าของชื่อต้องการให้อ่านว่า ”สุ-ระ-เกียด” เราก็ต้องอ่านตามชื่อเฉพาะเหล่านี้ เป็นต้น<br />4) การพูดโดยใช้คำภาษาต่างประเทศปะปนไปกับภาษาไ่ทย ผู้เขียนเห็นว่าก็ไม่เป็นข้อห้ามตายตัวว่าไม่สมควรพูด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้้นกับความเหมาะสมกับผู้ฟังและสถานการณ์เป็นหลัก<br />5) การพูดที่มีเสน่ห์อาจจะต้องสอดแทรกด้วยคำคม สุภาษิตคำพังเพย พิธีกรควรจะรวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้และหากจะยกมาเปรียบเปรยก็ควรจะใช้วิธีท่องให้จำดีกว่ายกขึ้นมาอ่าน หรือถ้าจะอ่านก็ต้องอย่าก้มอ่่านจนกระทั่งผู้ฟังจับได้<br />6) ฟังการอ่านข่าว หรือการบรรยายในงานพระราชพิธี หรืองานพิธีที่สำคัญเสมอเพื่อให้ได้แบบอย่างของการพูด <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheVgkDCwziCNBzro7ncEjO1R4C-dwsDP15taKwHkexdL777DOmLpw7J8Vb9EEtuutUrFNTtTvMlo3afp6lOzpiz-U96AZ4B7vMcCh8exQPgWaZjrjLYLXsDvdQdtb9Kokw_teOxcaqEz8/s1600-h/CAYDTNKG.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377599894382966546" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 167px; CURSOR: hand; HEIGHT: 131px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheVgkDCwziCNBzro7ncEjO1R4C-dwsDP15taKwHkexdL777DOmLpw7J8Vb9EEtuutUrFNTtTvMlo3afp6lOzpiz-U96AZ4B7vMcCh8exQPgWaZjrjLYLXsDvdQdtb9Kokw_teOxcaqEz8/s320/CAYDTNKG.jpg" border="0" /></a><br />สำหรับในส่วนของภาษาท่าทางนั้น ผู้ทำหน้าที่พิธีกรทุกคนคงจะรู้หลักกันมาบ้างแล้วจึงไม่ขอนำมาขยายความ ณ ที่นี้ เพียงแต่ขอสรุปไว้ว่าการใช้ภาษานั้นเป็นเรื่องลึกซึ้ง แต่ไม่ยุ่งยากเกินกว่าที่จะเรียนรู้ หมั่นสังเกต หมั่นฝึกฝน หมั่นประเมินการพูดของตนเอง และศึกษาจากผู้ที่มีแบบอย่างการพูดที่ดีอยู่เสมอ นี่คือ ทางมาซึ่งเทคนิคการใช้ภาษา</span></div></div></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-18812841686563961902009-09-03T06:17:00.000-07:002009-09-04T06:36:32.058-07:00การทำหน้าที่พิธีกรในงานประเภทต่างๆ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjd99Guu3jmwoWTmzu5MvPF4KPnT-x-lXSwhZnT6tRj3BVcyCaXnwDKKhJlznW6hPhU5h_gVNOKei6LscarJFTb8fJe2TM8FtcDcIjjMbjsfPYQ_oC8GYo7qdgN8An0uGInSZekXMW0BeI/s1600-h/CAUDB9SK.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377601808434436450" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 113px; CURSOR: hand; HEIGHT: 156px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjd99Guu3jmwoWTmzu5MvPF4KPnT-x-lXSwhZnT6tRj3BVcyCaXnwDKKhJlznW6hPhU5h_gVNOKei6LscarJFTb8fJe2TM8FtcDcIjjMbjsfPYQ_oC8GYo7qdgN8An0uGInSZekXMW0BeI/s320/CAUDB9SK.jpg" border="0" /></a><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#cc0000;">วรรณภา วรรณศรี</span><br /><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">โดยทั่วไปงานสังคมที่เราพบเห็นจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ งานแบบเป็นพิธีการ งานแบบไม่เป็นพิธีการ และงานกึ่งพิธีการ ลักษณะของงานถูกจำแนกเป็นประเภทตามบรรยากาศและรูปแบบของงาน พิธีกรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ และแยกแยะได้ เพราะงานบางงานอาจจะมีลักษณะบรรยากาศผสมกลมกลืนกันทั้ง 3 ประเภท ในขณะที่บางงานจะมีบรรยากาศ และรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน การทำหน้าที่ของพิธีการในแต่ละบรรยากาศของงานจึงต้องแตกต่างกันออกไป<br /><span style="color:#cc0000;">งานแบบพิธีการ</span><br />งานลักษณะนี้มักจะมีลำดับขั้นตอนของการดำเนินรายการอย่างเป็นรูปแบบที่เคร่งครัดทั้งในด้านเวลา คำพูดที่จะใช้ และขั้นตอนรายการ เช่น งานพระราชพิธีต่างๆ งานมอบประกาศเกียรติคุณ งานเปิดการฝึกอบรมหรือการประชุมที่เป็นทางการ ได้แก่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น<br /><span style="color:#cc0000;">ข้อแนะนำสำหรับพิธีกร</span><br />1) พิธีกรต้องมีความแม่นำในขั้นตอนการดำเนินรายการ เพราะงานแบบพิธีการจะผิดเพี้ยนไปไม่ได้เลย งานพิธีการจะมีกรอบโครงสร้างตายตัว ก่อนทำหน้าที่ควรศึกษาขั้นตอนว่า ใครจะต้องทำอะไร เมื่อไร และที่ไหน 2) ต้องทราบรายละเอียดของบุคคลที่จะต้องเอ่ยถึงในงานว่า ใครคือคนสำคัญที่สุดในงาน ใครเป็นประธานของงาน การเอ่ยชื่อ –สกุล ยศ ตำแหน่งต้องถูกต้อง<br />3) ควรไปถึงงานก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของงาน และประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจนอีกครั้ง และเพื่อกันความผิดพลาด<br />4) การแต่งกายของพิธีกรจะต้องเรียบร้อยถูกต้องกับลักษณะงาน เช่น การแต่งชุดข้าราชการเต็มยศหรือครึ่งยศ หรือชุดปกติกากีคอพับ หากเป็นงานราตรีก็ควรจะแต่งกายให้ดูดีเหมาะสมเหล่านี้เป็นต้น<br />5 )พิธีกรควรจัดทำ Script การดำเนินรายการให้ชัดเจน คำว่า Script มิได้หมายถึง กำหนดการจัดงาน แต่หมายถึงบทโดยละเอียดที่พิธีกรจะต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติมโดยประสารกับผู้เกี่ยวข้อง หากมีฝ่ายจัดทำให้แล้ว พิธีกรจะต้องศึกษาให้แม่นยำอีกครั้ง<br /><span style="color:#cc0000;">เพื่อให้ชัดเจนขึ้นจะขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้</span><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjzVbvz1khJ1jUkyHGOp8M3ZZjq-V0xc9Guwo4kYXBAojximdL8QQ5gjZFF4z8fexq6s0Yg6Vcoa8RrXE6cxahUPVeALTsqE0HTGn3ZZ3fPFmefSy9EOE5k-JEvcF8eyvv9f12d-RWMX58/s1600-h/CAO5Q3GP.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377602068389497986" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 157px; CURSOR: hand; HEIGHT: 158px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjzVbvz1khJ1jUkyHGOp8M3ZZjq-V0xc9Guwo4kYXBAojximdL8QQ5gjZFF4z8fexq6s0Yg6Vcoa8RrXE6cxahUPVeALTsqE0HTGn3ZZ3fPFmefSy9EOE5k-JEvcF8eyvv9f12d-RWMX58/s320/CAO5Q3GP.jpg" border="0" /></a><br />กำหนดการพิธีถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์</span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช<br />ณ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมืองพัทยา<br />วันที่ 28 ธันวาคม 2546<br />08.00 น.-ผู้แทนหน่วยงาน องค์กร และกลุ่มพลังต่างๆ ลงทะเบียน </span><br /><span style="color:#3333ff;">08.30 น.-การแสดงศิลปะการต่อสู้จากวิทยาลัย พลศึกษาชลบุรี </span><br /><span style="color:#3333ff;">09.00 น.-ผู้แทนหน่วยงาน องค์กร และกลุ่มพลังต่างๆ ตั้งแถว เพื่อเตรียมประกอบพิธี </span><br /><span style="color:#3333ff;">09.15 น.-ผู้แทนหน่วยงาน องค์กร และกลุ่มพลังต่างๆ ถวายเครื่องราชสักการะ </span><br /><span style="color:#3333ff;">10.00 น.-นายไพรัช สุทธิธำรงสวัสดิ์ นายกเมืองพัทยา ประธานในพิธีมาถึงบริเวณพิธี </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์<br />ประธานขึ้นสู่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ </span><br /><span style="color:#3333ff;">ประธานกล่าวคำถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">10.15 น.-จบแล้ววงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นอันเสร็จพิธี<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWMphMtHI1fErngPQls1F0KOaSBx_LH0dyNLEta6CEdbdJhdZ_fy5QP6P6T0PA179k4yKI5DCaGMv_RMdCGAJoy8mNQIZ8y6KtRQfunhBLffUHEh2M0jZtpUrGOZo1DLPYgjphQ6-WtBQ/s1600-h/images111.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377602724263274914" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 108px; CURSOR: hand; HEIGHT: 145px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWMphMtHI1fErngPQls1F0KOaSBx_LH0dyNLEta6CEdbdJhdZ_fy5QP6P6T0PA179k4yKI5DCaGMv_RMdCGAJoy8mNQIZ8y6KtRQfunhBLffUHEh2M0jZtpUrGOZo1DLPYgjphQ6-WtBQ/s320/images111.jpg" border="0" /></a><span style="color:#cc0000;">Script ดำเนินรายการ</span><br />09.00 น. - เสียงฆ้องดัง 3 ครั้ง </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">- Sound ข้อความ...“เรียนท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ขณะนี้ใกล้เวลาที่จะประกอบพิธีถวายเครื่องราช สักการะ...ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่าน<br />09.15 น. - เสียงฆ้องดัง 3 ครั้ง </span><br /><span style="color:#3333ff;">- พิธีกรประกาศ “ขณะนื้ได้เวลาประกอบพิธีถวาย เครื่องราชสักการะแด่ดวงทิพยวิญญาณแห่งองค์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้แล้วขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติ ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรและภาคเอกชนเข้าถวาย เครื่องราชสักการะตามลำดับดังนี้...” (ตีฆ้องเป็น จังหวะให้สัญญาณตลอดพิธี) </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">10.00 น. - พิธีกรประกาศ “ขณะนี้ นายไพรัช สุทธิธำรง สวัสดิ์ นายกเมืองพัทยา ประธานในพิธีเดินทาง มาถึงบริเวณพิธีแห่งนี้แล้ว” - ประธานเดินออกมาหยุดยืนยังจุดที่กำหนดไว้<br />- การบรรเลงเพลงจบลง พิธีกรประกาศ “ลำดับนี้ ประธานจะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะแด่ดวงทิพยวิญญาณแห่งองค์สมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช ณ บัดนี้” </span><br /><span style="color:#3333ff;">- เสียงฆ้องดัง 3 ครั้ง </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานพร้อมเจ้าหน้าที่อัญเชิญเครื่องราช สักการะพุ่มดอกไม้สด มายืนยังจุดที่กำหนดให้ </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานและเจ้าน้าที่อัญเชิญฯ ถวายความเคารพพร้อมกัน </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">- ประธานและเจ้าหน้าที่อัญเชิญฯ เดินขั้นบันไดไปยืนหน้าแท่นวางเครื่องราชสักการะ<br />- ประธานถวายเครื่องราชสักการะพุ่มดอกไม้สด </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย กราบ 1 ครั้ง ไม่แบมือ </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานและเจ้าหน้าที่อัญเชิญถวายความเคารพ พร้อมกันแล้วหันหลังกลับ เดินมายืนยังจุดที่กำหนดให้ </span><br /><span style="color:#3333ff;">- พิธีกรประกาศ “เพื่อน้อมรำลึกถึงพระวีรกรรมอันหาญกล้า ซึ่งทรงกระทำการเพื่อชาติ ศาสนา และ มหาชนอย่างแท้จริง นายกเมืองพัทยา ในนามพสกนิกรชาวเมืองพัทยา ทุกหมู่เหล่าจะได้กล่าวคำถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช ณ บัดนี้” </span><br /><span style="color:#3333ff;">- เสียงฆ้องดัง 1 ครั้ง </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานออกมายืนยังจุดที่กำหนดให้และกล่าวคำถวายราชสดุดีฯ </span><br /><span style="color:#3333ff;">- ประธานกล่าว... จนจบข้อความว่า"เพื่อเฉลิมพระเกียรติให้ไฟศาลตลอดกาลนานเทอญ” </span><br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#3333ff;">10.15 น. - ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นอัน เสร็จพิธี<br />- ประธานและทุกคนถวายความเคารพพร้อมกัน <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOrzonLSbNJ6UTt_E6cBW8Fur8S1D2_k7eKaIrgIZActkiNBbBJ2Ow4PWbmRtfHd2ACKlZT2bi-uqszjo05hozCiT3_Fvx93KcnDEnJZUFnhh6-A1FrCBtIzXsQZEWqJBZxkZgDTwUrQU/s1600-h/CAK0G9SO.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377603024919391826" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 146px; CURSOR: hand; HEIGHT: 165px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOrzonLSbNJ6UTt_E6cBW8Fur8S1D2_k7eKaIrgIZActkiNBbBJ2Ow4PWbmRtfHd2ACKlZT2bi-uqszjo05hozCiT3_Fvx93KcnDEnJZUFnhh6-A1FrCBtIzXsQZEWqJBZxkZgDTwUrQU/s320/CAK0G9SO.jpg" border="0" /></a></span><br /></span><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:courier new;">- เปิดเพลง “เจ้าตาก”<br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#cc0000;">งานแบบไม่เป็นพิธีการ<br /></span>งานลักษณะนี้จะไม่ค่อยเข้มงวดในด้านบรรยากาศของงานมากนัก จะเน้นความเป็นกันเองสอดแทรกด้วยความสนุกสนาน ขั้นตอนรายการก็อาจจะปรับยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยงชุมนุมศิษย์เก่า งานเลี้ยงต้อนรับ งานเลี้ยงอำลา งานบันเทิงต่างๆ เป็นต้น<br /><span style="color:#cc0000;">ข้อแนะนำสำหรับพิธีกร</span><br />1) งานแบบไม่เป็นพิธีการถึงแม้จะมีรูปแบบสบายๆ ไม่เคร่งครัดก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่พิธีกรจะต้องคำนึงเสมอ ก็คือ ขั้นตอนการดำเนินการ หรือขั้นตอนรายการ พิธีกรต้องวางขั้นตอนเหล่านี้อย่างเป็นระบบคร่าวๆ เพื่อให้สามารถควบคุมรายการได้ มิฉะนั้นจะทำให้บรรยากาศของงานดูสับสน และมีผลต่อบุคลิกภาพ รวมทั้งการพูดของพิธีกรไปทันที<br />2) จากประสบการณ์ของผู้เขียนเห็นว่างานแบบไม่เป็นพิธีการนั้นอาจจะดูง่ายๆ ไม่เคร่งครัดก็ตาม แต่พิธีกรหลายคนก็เป็นอันถึงกาลอนาคตดับไปเลยก็เพราะงานแบบนี้ ดังนั้น พิธีกรจะต้องมีความรู้สึกไวต่อบรรยากาศ และปฏิกิริยาของผู้ฟัง ทั้งนี้ เพื่อปรับให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสภาพที่น่ารื่นรมย์ พิธีกรจะต้องมีปฏิภาณไหวพริบและต้องสามารถสร้างบรรยากาศของงานให้ได้<br />ผู้เขียนเคยไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่ครั้งหนึ่ง งานนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นเกียรติในงานด้วยและนับเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด จะด้วยเหตุอันใดไม่ทราบเมื่อพิธีกรเชิญผู้ว่าฯ ขึ้นปราศรัยท่านก็พูดอย่างสบายๆ แบบเป็นกันเองก็เลยใช้เวลามากไปหน่วย ขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังพูดก็มีจดหมายน้อยส่งขึ้นมา พิธีกรรีบปราดออกไปรับทันที แล้วก็เปิดจดหมายอ่านในใจ ผู้ว่าฯ เหลือบเห็นก็เลยถามว่า “มีอะไรหรือ” ด้วยความซื่อหรือจะเรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบ พิธีกรยื่นจดหมายน้อยให้ผู้ว่าฯ ทันทีพอผู้ว่าฯ เปิดจดหมายออกอ่านด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดสมกับเป็นผู้นำ จากข้อความที่เขียนมาว่า “หยุดพูดเสียที อยากจะฟังเพลงแล้ว เบื่อว่ะ” เหตุการณ์เป็นอย่างไรต่อไปท่านคงจะพอเดาออก ปรากฏว่าพิธีกรซึ่งเป็นข้าราชการหนุ่มไฟแรงและนับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ทำหน้าที่นี้ถูกตำหนิอย่างมากมาย และนับแต่นั้นมาเขาก็ดูจะขยาดเวทีไปอีกนาน<br />3) การใช้ภาษาในงานแบบนี้ อาจจะต้องใช้ภาษาที่ทันสมัยปะปนไปด้วยก็ได้ แต่ต้องคำนึงถึงความพอดี ทั้งในแง่ของบรรยากาศ บุคคล และสถานที่ด้วยภาษาเหล่านี้จะเป็นตัวเสริมบรรยากาศให้เป็นกันเองได้ เช่น เจ๋ง วืด เนี๊ยบ เหล่านี้เป็นต้น<br />4) นอกจากนี้ ข้อแนะนำอื่นๆ ให้ดูจากข้อแนะนำในงานแบบพิธีการประกอบ เช่น เวลา การแต่งกาย การเตรียม Script<br /></span></span><div><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:courier new;"></span></span></div><div><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:courier new;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEim9XDUTZ01Qg5IUXMkbnFG88qxUgNVrNuXmsOhwcOKeu8Z55gUQve3wddTVKqwL6yuDgKaNmRoItNb7nQyPKvD_1TzbwN7ELRGRsbqe7xdP125Ei7BHS3PslJQoAjgRFdw5AdlUUjzUXk/s1600-h/CAEVQXP7.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377603537548134450" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 111px; CURSOR: hand; HEIGHT: 154px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEim9XDUTZ01Qg5IUXMkbnFG88qxUgNVrNuXmsOhwcOKeu8Z55gUQve3wddTVKqwL6yuDgKaNmRoItNb7nQyPKvD_1TzbwN7ELRGRsbqe7xdP125Ei7BHS3PslJQoAjgRFdw5AdlUUjzUXk/s320/CAEVQXP7.jpg" border="0" /></a></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#cc0000;">งานแบบกึ่งพิธีการ<br /></span>งานลักษณะนี้บางโอกาสก็คือ งานพิธีการนั่นเอง เพียงแต่มีความแตกต่างของบรรยากาศ และบางโอกาสกคืองานแบบไม่เป็นพิธีการได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จะสังเกตได้อย่างไร จากประสบการณ์ของผู้เขียนแล้วจะใช้วิธีพูดคุยกับเจ้าของงาน หรือผู้รับผิดชอบถึงขอบข่ายของงานลักษณะบรรยากาศ ลักษณะบุคคลที่เป็นประธาน และผู้มาร่วมงานเป็นหลัก งานลักษณะนี้ได้แก่ งานแต่งงาน งานบวช งานเลี้ยงรับรอง งานเกษียณอายุ เป็นต้น<br /></span><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#cc0000;">ข้อแนะนำสำหรับพิธีกร<br /></span>1) พิธีกรควรจะพูดคุยกับเจ้าของงานหรือผู้รับผิดชอบงานในรายละเอียดของงานให้แน่ชัดว่าช่วงใดจะต้องดำเนินรายการแบบเป็นทางการ หรือเป็นพิธีการช่วงใดสามารถดำเนินรายการโดยอิสระไม่ยึดรูปแบบเคร่งครัดหรือแบบไม่เป็นพิธีการ หากเจ้าของงานขอคำแนะนำเพราะไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรช่วงใด พิธีกรต้องช่วยชี้แนะและวางรายการให้เพื่อให้เหมาะสมที่สุด <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEih5wSWnBfPFECypoGaYRS9_PZNxUtR_aUmpG5r3mw7axUVP6X5CNTAGIqO5u249Kw212uTamDaizAZQWfRWL14NixRqxbq3XxVZK65BLI55LPAMBiRzeFsdykIr4KPgRtBXIMtIzvXJoQ/s1600-h/CAQVS9A3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377603942404166018" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 154px; CURSOR: hand; HEIGHT: 163px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEih5wSWnBfPFECypoGaYRS9_PZNxUtR_aUmpG5r3mw7axUVP6X5CNTAGIqO5u249Kw212uTamDaizAZQWfRWL14NixRqxbq3XxVZK65BLI55LPAMBiRzeFsdykIr4KPgRtBXIMtIzvXJoQ/s320/CAQVS9A3.jpg" border="0" /></a><br />2) การเตรียมการอื่นๆ ของพิธีกรให้ศึกษาจากข้อแนะนำที่เสนอไว้ในงานแบบพิธีการและแบบไม่เป็นพิธีการ<br /></span></span><span style="font-family:courier new;color:#cc0000;">กล่าวโดยสรุปแล้วการทำหน้าที่ของพิธีกรในลักษณะต่างๆนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับหลักการที่ถูกต้องแล้ว ยังต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละองค์กรนั้นๆ ด้วย จะเป็นว่า งานบางงานจะเป็นทั้งแบบพิธีการและกึ่งพิธีการหรือไม่เป็นพิธีการในงานเดียวกันก็ได้ ดังนั้น ประสบการณ์ การู้จักเป็นผู้สังเกต และการพัฒนาตนเองของพิธีกรเท่านั้นที่จะทำให้การทำหน้าที่พิธีกรแต่ละครั้งดำเนินไปได้อย่างน่าประทับใจ</span></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-63051720912438665892009-09-03T05:34:00.000-07:002009-11-03T19:39:26.970-08:00เทคนิคหรือกลยุทธ์ของการเป็นพิธีกร<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPTmCGXFNhbyuKof33uLh1hzycc8QZa4KF23eEslX78kY_eTbeA6VD4lsKf9ZUzAReeNRV5UoOLbhonBCbAlwZAQRx_NFniPFcE6AetJqqBvqCQJRt02dgmk1srxgq3SBO424kD7P5H-8/s1600-h/images12.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377221607910445858" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 153px; CURSOR: hand; HEIGHT: 121px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPTmCGXFNhbyuKof33uLh1hzycc8QZa4KF23eEslX78kY_eTbeA6VD4lsKf9ZUzAReeNRV5UoOLbhonBCbAlwZAQRx_NFniPFcE6AetJqqBvqCQJRt02dgmk1srxgq3SBO424kD7P5H-8/s320/images12.jpg" border="0" /></a> <span style="color:#990000;"><span style="font-size:85%;">ลีเจง ถนอมวรกุล</span></span><br /><div></div><div><span style="color:#660000;"></span></div><br /><div><span style="color:#660000;"><span style="color:#ff0000;">มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีความต้องการที่จะติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้ผู้อื่นเข้าใจตนเองและให้ตนเองเข้าใจผู้อื่น </span>พยายามที่จะติดต่อสื่อสารระหว่างกันเพื่อจะได้รับรู้ข่าวสารเรื่องราวต่าง ๆยิ่งในยุคนี้ซึ่งเป็นยุคที่เรียกกันว่ายุคโลกาภิวัตรที่สื่อทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มีบทบาทสำคัญในการติดต่อสื่อสารโดยนำเสนอเป็นรายการในรูปแบบต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ามีบุคคลทำหน้าที่เป็นพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการซึ่งพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการนี้ใช่จะเป็นกันได้ง่าย ๆ ไม่ใช่สักแต่ว่ามือถือไมล์ ไฟส่องหน้าใคร ๆ ก็จะเป็นกันได้ หากแต่ต้องอาศัยความรู้ความชำนาญ ความเข้าใจและปฏิภาณไหวพริบหลาย ๆอย่างประกอบกันเพื่อทำให้รายการดำเนินไปสู่จุดหมายปลายที่ได้วางเอาไว้ พิธีกรต้องรู้เทคนิคหรือกลยุทธ์ของการเป็นพิธีกร<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQTVq0reR0Ncnt2dy92w26zxcsBIDR5nqlrDEcDqMeS-XAPXCJe_6X7A-8ISk-nV05ZiT7i84F1BcNYJQGvZnR7IuzCDGtSRgn4tRGZgeUbEJSOUTFfQ6ehBQUOiSJSWjGd6tIU10ax8U/s1600-h/images02.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377221880757088114" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 99px; CURSOR: hand; HEIGHT: 139px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQTVq0reR0Ncnt2dy92w26zxcsBIDR5nqlrDEcDqMeS-XAPXCJe_6X7A-8ISk-nV05ZiT7i84F1BcNYJQGvZnR7IuzCDGtSRgn4tRGZgeUbEJSOUTFfQ6ehBQUOiSJSWjGd6tIU10ax8U/s320/images02.jpg" border="0" /></a></span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFNFVRaHmRn3L6p4sElSLnXOXAqSlOd4vvddIxGkjFkLrxUqlkm0VZN0-symBHZRrHaDHFvcmHy8xlUQt_zQFMNXOZIVTl8aW7uXxWhCpmkwg4Nz_7tB63AhXj5bgK8AFzQZzcgYDZXWg/s1600-h/images03.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377222321698250930" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 139px; CURSOR: hand; HEIGHT: 113px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFNFVRaHmRn3L6p4sElSLnXOXAqSlOd4vvddIxGkjFkLrxUqlkm0VZN0-symBHZRrHaDHFvcmHy8xlUQt_zQFMNXOZIVTl8aW7uXxWhCpmkwg4Nz_7tB63AhXj5bgK8AFzQZzcgYDZXWg/s320/images03.jpg" border="0" /></a> <div><span style="color:#ff0000;"><span style="font-family:arial;">ความหมาย</span>และความสำคัญของพิธีกรรายการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์</span></div><div><span style="color:#3333ff;">พิธีกร ผู้ดำเนินรายการ ความหมายมาจากคำภาษาอังกฤษว่า M.C. คือ Master of ceremony พิธีกรความหมายทั่ว ๆ ไปคือมีหน้าที่ในการจัดลำดับพิธีการให้เป็นไปตามกำหนดการที่เขาวางไว้ล่วงหน้าหรือตามที่เห็นสมควรด้วยการประกาศแจ้งให้ผู้เข้าร่วมพิธีเข้าร่วมกิจกรรมตามกำหนดการและแนะนำตัวบุคคลและผู้ร่วมพิธีการได้รู้จักหรือสนทนาหรือสัมภาษณ์บุคคลสำคัญในพิธีการนั้นหรือรวมกล่าวได้ว่าพิธีกรมีหน้าที่ดำเนินพิธีการตั้งแต่ต้นจนจบ หรือตามรายการหรือตามเวลาที่ได้รับมอบหมายให้ครบถ้วนทางด้านวิทยุหรือทางด้านโทรทัศน์ วิทยุคือวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์พิธีกรดำเนินรายการคือผู้ที่จะสามารถทำให้รายการนั้นดำเนินไปด้วยอย่างราบรื่น อาจจะทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมรายการเป็นผู้ร่วมสนทนาหรือเป็นผู้ประกาศของรายการนั้น ๆ </span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5fmDPPbKL1v1fNE4Z6yH4niYF9G8DRwrC602UhGjhbTDxQc_JgCS6bFzoWBqHriWaaQ0fvXkE9u1Dwq-MDKeGWgLjBPSRpNTEjysnpKg5Z_cuvwyMt7duu_D3Im_WLwDhorInomWFItg/s1600-h/images01.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377222740707055842" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 144px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5fmDPPbKL1v1fNE4Z6yH4niYF9G8DRwrC602UhGjhbTDxQc_JgCS6bFzoWBqHriWaaQ0fvXkE9u1Dwq-MDKeGWgLjBPSRpNTEjysnpKg5Z_cuvwyMt7duu_D3Im_WLwDhorInomWFItg/s320/images01.jpg" border="0" /></a> <div><span style="color:#ff0000;">หลักการพูดทางวิทยุกระจายเสียงและทางวิทยุโทรทัศน์มีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร</span></div><div><span style="color:#009900;">การพูดทางวิทยุกระจายเสียงกับการพูดทางวิทยุโทรทัศน์จะแตกต่างกันการพูดทางวิทยุกระจายเสียงนั้นเป็นการพูดโดยที่มองไม่เห็นตัวหน้าไม่เห็นหน้าผู้ฟัง เพราะฉะนั้นการพูดทางวิทยุจะต่างกับโทรทัศน์ตรงที่ทางวิทยุจะต้องพูดให้เขาฟังโดยให้ผู้ฟังเกิดภาพพจน์ตามไปด้วย ส่วนโทรทัศน์นั้นผู้ชมเห็นภาพทางจอโทรทัศน์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการพูดทางโทรทัศน์ก็คงจะต้องบวกบุคลิกภาพลีลาเข้าไปด้วย</span> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7e6tgsyss11ngoz_JClYvHqC-aN48n_a4qKEYLpMlY7Ly39pR9gOiuVRdvkJN-kxx4xiAHQg3uJ3bD2Vg0EubCYj52sXvbDZjiyE1ci80hG2HlZoGJ1mVA1AfUREyRqfoaQP_NARCtTM/s1600-h/images9.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377223736282982114" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 116px; CURSOR: hand; HEIGHT: 136px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7e6tgsyss11ngoz_JClYvHqC-aN48n_a4qKEYLpMlY7Ly39pR9gOiuVRdvkJN-kxx4xiAHQg3uJ3bD2Vg0EubCYj52sXvbDZjiyE1ci80hG2HlZoGJ1mVA1AfUREyRqfoaQP_NARCtTM/s320/images9.jpg" border="0" /></a><br /></div><div><span style="color:#ff0000;">หลักการอย่างไรที่จะทำให้ผู้ฟังหรือผู้ชมเกิดความสนใจและติดตามรายการ</span></div><div><span style="color:#6600cc;">การที่จะทำให้รายการประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์นั้น จะต้องมีการเตรียมตัวที่ดี คนที่พูดไม่ค่อยดีนักคงต้องเตรียมฝึกพูดเสียก่อน ทางวิทยุกระจายเสียงจะต้องฝึกเปล่งเสียงออกมาเพราะบางคนจะมีการเปล่งเสียงไม่คงที่ การเตรียมฝึกตัวเองในเรื่องของการเปล่งเสียงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเปล่งนาน ๆ การรักษาระดับเสียงให้คงที่เป็นสิ่งสำคัญ ฝึกกลั้นลมหายใจเมื่อเวลาพูดนาน ๆ หลายประโยคจะไม่เหนื่อย บางคนอ่านหนังสือนาน ๆ น้ำลายจะสอตรงริมฝีปาก บางคนพูดช้ามากคนจะรู้สึกอึดอัดไปด้วย บางคนจะพูดเร็วจนเกินไปคนฟังจะฟังไม่ทัน การเตรียมตัวนั้นจะต้องเตรียมทั้งด้านสุขภาพ บางคนอาจจะเป็นโรคหัวใจจะเหนื่อยเร็วทำงานทางด้านโทรทัศน์หรือวิทยุไม่ได้ คงต้องระวังรักษาสุขภาพให้ดีเสียงที่เปล่งออกมาจะได้ชวนฟัง บางคนที่เหนื่อยมาก ๆ เสียงที่พูดออกมาไม่กระฉับกระเฉง พูดเหนื่อยมาก ๆ คนฟังรำคาญตามไปด้วย ควรจะทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใสเสียงจะได้เบิกบานไปด้วย <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi55KUIBDIJCA5QkLIjU2PnmdxT6gslBL4Y0YyK-0HAreJs7clYNGdYxXxg0xP7gwJDh5kdE-7hwk-q-mk-ANzVN8gGAXFLGJ0mBTNFpxITWhiy-x9PstNuCYEVgAMQwCQ5D5HfnK386NI/s1600-h/images05.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377225471526084066" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 156px; CURSOR: hand; HEIGHT: 123px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi55KUIBDIJCA5QkLIjU2PnmdxT6gslBL4Y0YyK-0HAreJs7clYNGdYxXxg0xP7gwJDh5kdE-7hwk-q-mk-ANzVN8gGAXFLGJ0mBTNFpxITWhiy-x9PstNuCYEVgAMQwCQ5D5HfnK386NI/s320/images05.jpg" border="0" /></a>ส่วนอารมณ์โกรธน้ำเสียงที่ออกมาจะสื่อเสียงโกรธออกมาด้วยต้องมีอารมณ์ที่เบิกบานแจ่มใส พูดไปด้วยยิ้มไปด้วยอาจจะทำให้คนฟังยิ้มตามไปด้วย การเตรียมบทวิทยุจะต้องเตรียมคำพูดมาแล้วถ้าหากว่าไม่มีบทติดมือมาด้วยบางครั้งลืม คำพูดที่พูดออกไปอาจจะไม่ดี ส่วนทางด้านโทรทัศน์คงจะต้องฝึกหลายอย่าง เพราะจะต้องมีลีลาประกอบไปด้วย จะต้องฝึกหน้ากระจกเพื่อเราได้ดูตัวเองได้ว่าเป็นอย่างไรฝึกโดยใช้เครื่องมือช่วยคือการบันทึกเทปเอาไว้ จากนั้นมาสำรวจตัวเองว่าสิ่งที่ทำไปดีไหม จะเป็นกระจกบานแรกที่จะสะท้อนตัวเองก่อนเอาไปให้คนอื่นวิจารร์ และยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยการฝึกพูดอีกประการหนึ่งคือจะต้องฝึกในการพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะเป็นเสน่ห์ของผู้ดำเนินรายการทางโทรทัศน์และมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันทางด้านโทรทัศน์จะต้องมีการฝึกการใช้สายตาด้วยบางคนจะชินกับกล้อง ๆ เดียว อาจจะมองกล้องไม่ดี บางคนมองไฟแดง ๆ ที่อยู่บนตัวกล้องทำให้ตาเหลือบออกไปเพราะฉะนั้นจะต้องฝึกสบตากับกล้อง ถ้าจะพูดกับผู้ชมอย่าทำตาหลุกหลิกมองโน่นมองนี่ดูเวลาว่าจะจบหรือยังไม่มีสมาธิสิ่งเหล่านี้เป็นการฝึกสำหรับผู้ที่จะพูดทางโทรทัศน์และฝึกพูดในลักษณะนั่งหรือเดินให้คล่องแคล่ว พิธีกรบางครั้งจะถูกสั่งให้เดินแล้วพูด บางคนนั่งแล้วพูดเสียงจะได้คงที่ บางคนยืนพูดแล้วเสียงดัง</span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7HsaoYi5yXdtYG-h2aXT0Lja94PvjZzjGG7PSLr60zn9okUyy018C4qLQ1gzlyjzmWMn0OrtUT1nRoFJB4FfQbQ6xYjELJWTrJ68OVwi_s8gL8iK459ptelcEhWEOePKz9-mS0GASe68/s1600-h/images04.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377225829200158130" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 131px; CURSOR: hand; HEIGHT: 112px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7HsaoYi5yXdtYG-h2aXT0Lja94PvjZzjGG7PSLr60zn9okUyy018C4qLQ1gzlyjzmWMn0OrtUT1nRoFJB4FfQbQ6xYjELJWTrJ68OVwi_s8gL8iK459ptelcEhWEOePKz9-mS0GASe68/s320/images04.jpg" border="0" /></a><span style="color:#ff0000;">พิธีกรดำเนินรายการควรมีบุคลิกภาพอย่างไร<br /></span><div><span style="color:#3333ff;">สำหรับบุคลิกภาพทางวิทยุปรับปรุงเฉพาะลีลาการพูด น้ำเสียงและอักขระต่าง ๆ ทางด้านโทรทัศน์นั้นบุคลิกภาพสำคัญมากต้องปรับปรุงและแต่งเติมในส่วนที่ขาดไป เช่น รายการต่าง ๆ ที่ดำเนินรายการอยู่ รายการโทรทัศน์มีหลายประเภทด้วยกัน แต่ละประเภทจะเหมาะกับบุคลิกของแต่ละรายการนั้น ๆ เช่น รายการบันเทิงจะเริ่มตั้งแต่รูปร่างหน้าที่ คนที่จะทำรายการบันเทิงได้จะต้องปรับปรุงบุคลิกภาพให้เป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ชมคลายเครียดจากการทำงานมาดูรายการทำให้เพลิดเพลินไปด้วยเพราะฉะนั้นรูปร่างหน้าตาของผู้ดำเนินรายการบันเทิงจะต้องดูดีถึงแม้ว่าจะไม่สวยมากแต่ขอให้ดูดีซึ่งต่างกับผู้ดำเนินรายการข่าวบุคลิกภาพจะต้องปรับปรุงให้ดูน่าเชื่อถือ รูปร่างหน้าตาต้องปรับปรุง ถ้าหากทำรายการกับเด็ก ๆ ทำดูเด็กก็ได้แต่สำหรับรายการเพลงไทยเดิมหรือเพลงไทยต้องแต่งตัวเป็นไทย ๆ บุคลิกภาพเหล่านี้ปรับปรุงไปตามรายการนั้น ๆ ส่วนรายการข่าวจะต้องแต่งตัวให้ดูเคร่งขรึม ผู้ชายจะต้องสวมสูท ส่วนผู้หญิงต้องสวมเสื้อผ้าที่ดูดี ดูแล้วชวนมอง เครื่องแต่งตัวเครื่องประดับต่าง ๆ ให้เหมาะสมเป็นบุคลิกภาพที่สามารถจะปรับปรุงได้ คนอ่านข่าวจะต้องไม่แต่งตัวที่ใส่เครื่องประดับราคาแพงวูบวาบเกินไปนักส่วนรายการบันเทิงอื่น ๆ ที่เป็นรายการวงดนตรีใหญ่ ๆ อาจจะแต่งตัวค่อนข้างดี หรูหรา เป็นชุดราตรียาวส่วนน้ำเสียงนั้นจะต้องปรับปรุงถ้าเป็นรายการเด็กจะต้องเป็นเสียงที่พูดกับเด็กแต่ส่วนรายการผู้ใหญ่จะใช้เสียงเด็ก ๆ ไร้เดียงสาคงจะไม่เหมาะนักเพราะฉะนั้นจะต้องทำเสียงให้เข้ากับบรรยากาศนั้น ๆ <img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377223339990891218" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 149px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhcY6CC489EbrQ1mCKAgJUhDnDsTL_6_xZJjKQUq5_Jb8uMIDCAcgDbHyVW-VZvBI9IEcOsPRbDP-moA1d3TZN0uyIfaBL4VzwdAFJJlaP2fsOWJEPMJSBsA14W0Bui7NjqjvJwsHgddIA/s320/images06.jpg" border="0" />ส่วนการพูดคุยกับผู้ที่พูดภาษาฝรั่งตลอดเวลาจะต้องคอยแปลเป็นไทยให้คนฟังบ้างนิดหน่อยแล้วก็ใช้ภาษาที่ง่าย ๆ ให้กับคนฟัง ให้คนฟังเข้าใจวิธีการพูด ให้พูดชัดถ้อยชัดคำปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองในเรื่องของลีลา น้ำเสียง จังหวะ ท่าทาง นอกจากรูปร่างหน้าตา ทรงผม เครื่องแต่งตัว วิธีการพูด น้ำเสียงแล้วกิริยาท่าทางเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพิธีกร เพราะพิธีกรที่ดีนั้นจะต้องมีกิริยาท่าทางที่นุ่มนวลหรือร่าเริง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผู้ชม ผู้ฟัง ที่อยู่ทางบ้านมีส่วนร่วมกับรายการนั้นไปด้วยในขอบเขตที่เหมาะสม แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่เป็นพิธีกรจะต้องให้เกียรติทุกคนที่มาร่วมรายการและผู้ฟังผู้ชมทางบ้านเสมอ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ พิธีกรจะต้องมีการควบคุมอามรณ์ได้ดี พยายามแก้ไขปัญหาด้วยความสุขุมรอบคอบ บุคคลที่จะเป็นพิธีกรทางวิทยุหรือโทรทัศน์หรือวิทยุควรฝึกเรื่องอักขระให้ถูกต้อง แม่นยำ ภาษาไทยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นวัฒนธรรมทางภาษา อาจจะเป็นหนึ่งในโลกที่ดีที่สุดอยู่ในขณะนี้ พิธีกรทางโทรทัศน์ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ให้มาก ๆ บุคคลที่จะเป็นพิธีกรดำเนินรายการจะต้องรู้จักดูรายการของคนอื่น ๆ ด้วย ดูให้มาก ๆ แล้วนำมาพัฒนา ปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา</span></div><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgh-clXz_lQkVxrY5nfce-fCqt1RuWzNNM-jmgB2Cs82Gwc0LeRzJbCBHdGMlTc9CICnbiDiAf11shhuVGQ1eZwsWlJIUocOBLMOEF07-rbTpQjzOcsApvSc4nclowIxAJ7lLefpqZBEQQ/s1600-h/RoyLee_011_IMG_3475.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377226620226493234" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 150px; CURSOR: hand; HEIGHT: 250px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgh-clXz_lQkVxrY5nfce-fCqt1RuWzNNM-jmgB2Cs82Gwc0LeRzJbCBHdGMlTc9CICnbiDiAf11shhuVGQ1eZwsWlJIUocOBLMOEF07-rbTpQjzOcsApvSc4nclowIxAJ7lLefpqZBEQQ/s320/RoyLee_011_IMG_3475.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#3333ff;"></span></div><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><div><span style="color:#3333ff;"></span></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-10581859629085723032009-09-03T01:19:00.000-07:002009-09-03T05:19:59.304-07:00เทคนิคการใช้ไมโครโฟน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkHKzgD7Kxjuq7YbG5OLFcb93z58h_TQAKm1p9IJaDls6drf70vqm0U4SG7H4V3iIDtmNC3hW3vGYSQXgGuBvZFX6XjjI_H9Guk4m-ypM3BI98vcUn4c7Z3N10Ns9IDHm5DWKo2PS6xpE/s1600-h/images.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377210695691503506" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 129px; CURSOR: hand; HEIGHT: 127px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkHKzgD7Kxjuq7YbG5OLFcb93z58h_TQAKm1p9IJaDls6drf70vqm0U4SG7H4V3iIDtmNC3hW3vGYSQXgGuBvZFX6XjjI_H9Guk4m-ypM3BI98vcUn4c7Z3N10Ns9IDHm5DWKo2PS6xpE/s320/images.jpg" border="0" /></a> <span style="font-size:85%;color:#990000;">วรรณภา วรรณศรี</span><br /><br /><span style="color:#3333ff;">ทำไมต้องมาพูดกันถึงเรื่องของไมโครโฟน ? ก็เพราะพิธีกรกับไมโครโฟนเป็นของคู่กัน หากจะเปรียบว่า "มือถือไมค์ไฟส่องหน้า" เหมือนนักร้องก็คงไม่ผิดกันสักเท่าไหร่นัก พิธีกรหลายคนเสียอนาคตไปเพราะไมโครโฟนก็มากมาย โดยเฉพาะ <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjw8UN3AOTt0oz1H0_Uu9KVVYGybu3i_xpoQyvw8P8SOOwNX2CIXgb2G2u95wLyHAddpmm4WnNfSfvt67l2oBauAIn8Zf9U_mYCCcRV8dQIfj267v-uHIMZ5_JrxaiuYXoDXlav_hlED1s/s1600-h/images1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377213005493663234" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 118px; CURSOR: hand; HEIGHT: 151px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjw8UN3AOTt0oz1H0_Uu9KVVYGybu3i_xpoQyvw8P8SOOwNX2CIXgb2G2u95wLyHAddpmm4WnNfSfvt67l2oBauAIn8Zf9U_mYCCcRV8dQIfj267v-uHIMZ5_JrxaiuYXoDXlav_hlED1s/s320/images1.jpg" border="0" /></a>"พิธีกรมืออาชีพ" แต่ไม่ได้มีอาชีพพิธีกรอย่างเราท่าน บางงานเจ้าภาพก็ไม่ได้สนใจระบบเครื่องเสียงสักเท่าใด คงอาจเห็นว่าตนเองไม่ได้พูด ประกอบพิธีกรก็มักจะเป็นประเภทขอแรงมาช่วยกัน ดังนั้่นขอให้พูดผ่านไมโครโฟนแล้วมีเสียงออกมาทางลำโพงให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึงก็ถือว่าระบบเสียงใช้ได้แล้ว ผู้เขียนเองก็จะเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำ และเราท่านทั้งหลายก็คงจะต้องอยู่ในฐานะเดียวกับผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ <span style="color:#ff0000;">เจ้าภาพหรือเจ้าของงานมักจะลืมความสำคัญของระบบเสียง เพราะมั่นใจในตัวพิธีกร แต่หารู้ไม่ว่า พิธีกรต้องสูญเสียบุคลิกภาพการพูดไปอย่างน่าเห็นใจ <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvrKYFc8XqjrWFJG1UckQHmhQsiwJ7E8248jcsulitt7ukEV62XTpb99WOkpQvvyBxxVsssCxRh7URZhphrzRbXR4iE0hCu83HM4gcZVzTet-2g6phPqWNB3I2sP25mVh2bJlevdmAsIQ/s1600-h/images8.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377211044297216210" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 150px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvrKYFc8XqjrWFJG1UckQHmhQsiwJ7E8248jcsulitt7ukEV62XTpb99WOkpQvvyBxxVsssCxRh7URZhphrzRbXR4iE0hCu83HM4gcZVzTet-2g6phPqWNB3I2sP25mVh2bJlevdmAsIQ/s320/images8.jpg" border="0" /></a><br /></span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6UbnASN-EGmEUmITcXOI-ulNK-NrtGyVVXS4syqI9AMFZqKFjRjucw5s67DyysAbF-dcksJIzJJxNP2MlGix4IPes7_wBGxt5hkkMgM9EIcAcBMsWoROqNlRliaMWRVgzGk-9mkb7qPY/s1600-h/images4.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377211419254081602" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 95px; CURSOR: hand; HEIGHT: 143px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6UbnASN-EGmEUmITcXOI-ulNK-NrtGyVVXS4syqI9AMFZqKFjRjucw5s67DyysAbF-dcksJIzJJxNP2MlGix4IPes7_wBGxt5hkkMgM9EIcAcBMsWoROqNlRliaMWRVgzGk-9mkb7qPY/s320/images4.jpg" border="0" /></a><br />แต่อย่างไรก็ตามขอเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเทคนิคการใช้ไมโครโฟนจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง เพื่อว่าอาจจะเป็นแนวทางสำหรับทุกท่านบ้าง<br />1) <span style="color:#ff0000;">ควรไปถึงงานก่อนเวลาสัก 1 ชั่วโมง</span> แล้วลองพูดผ่านไมโครโฟนดูว่า กระแสเสียงเป็นอย่างไร ชัดเจนแค่ไหน ตามปกติจะมีตำราว่า การใช้ไมโครโฟนควรให้ห่างจากปากประมาณ 10 นิ้ว แต่จากประสบการณ์ผู้เขียนแล้ว พบว่า ไมโครโฟนสมัยนี้มีหลายแบบหลายรุ่น บางรุ่นอยู่ห่างปากพูดเบาๆก็ได้ยิน บางรุ่นต้องถือจ่อไว้เกือบติดปากเสียงจึงจะชัดเจน ดังนั้นขอเสนอเป็นบรรทัดฐานว่า ควรถือไมโครโฟนห่างจากปากประมาณ 1 คืบ จะเหมาะที่สุด<br />2) ขณะพูดควรสังเกตเสียงที่ออกจากไมโึีครโฟนด้วยว่า ชัดเจนแค่ไหน ท่่านต้องปรับระยะการใช้ไมโครโฟนให้เหมาะสมสมอ บางทีพูดๆไปเสียงลมจากการเปิดปากพูด หรือเสียงลมหายใจจะออกมาชัดเจน ต้องใช้วิธีดึงไมโครโฟนออกห่างจากปากสักหน่อยแล้วพูด หรือถ้าเป็นไมค์ลอยลักษณะการถือมักจะต้องจับไมโครโฟนเกือบขนานกับพื้นเสียงจึงจะออกมาชัดเจน<br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuG4jz9yiXc2mNWkb5qL6tXFK9McnrcHoHIqUMJxtKp0K0-jg0HKAn7ElYQQc9BOaoxZ7iYWkSPwRFLqMndeN-AZiACDsu0ZI5ZcSciDEGWlEw5ud-8Wv2mudtl0gf_R5gGdWHfRVyxeA/s1600-h/images5.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377211977194480770" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 103px; CURSOR: hand; HEIGHT: 137px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuG4jz9yiXc2mNWkb5qL6tXFK9McnrcHoHIqUMJxtKp0K0-jg0HKAn7ElYQQc9BOaoxZ7iYWkSPwRFLqMndeN-AZiACDsu0ZI5ZcSciDEGWlEw5ud-8Wv2mudtl0gf_R5gGdWHfRVyxeA/s320/images5.jpg" border="0" /></a>3) ต้องสังเกตว่า สวิชท์เปิดปิดไมโครโฟนอยู่ตรงไหน <span style="color:#ff0000;">ก่อนพูดต้องเปิดให้เรียบร้อยและพูดจบต้องปิดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันเสียงอื่นๆแทรกขณะไม่ได้ใช้ไมโครโฟน</span> นอกจากนี้ขาตั้งไมค์จะมีหลายแบบท่านต้องศึกษาจากผู้ควบคุมเสียงว่าจะเลื่อนขึ้นลงอย่างไร บางรุ่นจะใช้วิธีหมุนเกลียว บริเวณขาไมค์ บางรุ่นจะใช้วิธียกที่ข้อต่อ ท่านต้องสอบถามให้แน่ชัด<br />4) เมื่อเริ่มต้นพูด<span style="color:#ff0000;">อย่าทดลองเสียงด้วย คำว่า "ฮัลโหล...ฮัลโหล" หรือเคาะ หรือเป่าลมใส่ไมโครโฟนเป็นอันขาด </span>ควรพูดออกไปเลยว่า "สวัสดีค่ะ (ครับ)" และนี้เองที่ท่านจะเป็นต้องมาถึงงานก่อนเวลาเริ่มงานเพื่อทดสอบความพร้อมของไมโครโฟน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgSTg0fGiGOxUv1NSym9JBQ4EPCdz0DkXoIaIV22oQaAqH5O0bsTlgGkWKJY7m60X18wX1IiA7TJkHea2Tkfyov9WujTDR8gsg-sW6aSXThA37ZlYVeX8Q32ofbVGYTz8SR1yWHlVUzoJk/s1600-h/images7.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377212527341077186" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 142px; CURSOR: hand; HEIGHT: 111px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgSTg0fGiGOxUv1NSym9JBQ4EPCdz0DkXoIaIV22oQaAqH5O0bsTlgGkWKJY7m60X18wX1IiA7TJkHea2Tkfyov9WujTDR8gsg-sW6aSXThA37ZlYVeX8Q32ofbVGYTz8SR1yWHlVUzoJk/s320/images7.jpg" border="0" /></a><br />5) เมื่อพูดจบแต่ละช่วงหากท่านจำเป็นต้องยืนอยู่บนเวที และต้องถือไมโครโฟนไว้ <span style="color:#ff0000;">ควรถือไว้ระดับเอว</span> อย่ายืนถือแบบตามสบายโดยหย่อนข้างลำตัว พราะจะทำให้ดูบุคลิกภาพไม่ดี<br /><br /><span style="color:#cc0000;">และนี่คือเรื่องราวของเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เที่ยวกับการใช้ไมค์โครโฟน ซึ่งพิธีกรทุกคนควรจะทราบ เพราะสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ เหล่านี้อาจจะสร้างความสำเร็จและความล้มเหลวให้พิธีกรได้เช่นนั้น</span><br /></span><span style="color:#3333ff;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377211632699230578" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 160px; CURSOR: hand; HEIGHT: 116px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhEEA9tNAMEZ9s5keheTlxTfwN3C0rwE3D3RX8DbnF1Q_dAvkZPNj4Wl42dFyOF3INapvQUYcX98LIUnVHzhcTUdYhu-qvbCH9-pNsy0VFukqwDSrr7vHTI6AEuuR7z_8Ytd-O7AUIbt6Q/s320/images6.jpg" border="0" /></span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-4377718093248956362009-09-02T05:03:00.000-07:002009-09-02T21:42:07.808-07:00ประสบการณ์ในการเป็นพิธีกร<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhBu0FN43zrvPmufkVvu-GxBCCITznuvipiZdCMdsEMoJLAb3kxFRYfRR-sNHp5ojblDdMzfoXoBjvpa34PQHpGmVr9yv51EQ7eNqonmryJPs1CxxNGz6Y6wxhMGvrMZa8jh405rlSM5Jc/s1600-h/bb.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 120px; FLOAT: left; HEIGHT: 90px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376841840009820034" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhBu0FN43zrvPmufkVvu-GxBCCITznuvipiZdCMdsEMoJLAb3kxFRYfRR-sNHp5ojblDdMzfoXoBjvpa34PQHpGmVr9yv51EQ7eNqonmryJPs1CxxNGz6Y6wxhMGvrMZa8jh405rlSM5Jc/s320/bb.jpg" /></a><br /><span style="font-size:85%;color:#cc0000;">บี จุฑามาศ<br /></span><br /><span style="color:#ff0000;">คนเราเมื่อทำอะไรแล้วประสบผลสำเร็จ แม้แต่เป็นเรื่องเล็กๆ เราก็ต้องภูมิใจในตัวเองไว้ก่อน เพราะมันจะเป็นการสร้างกำลังใจที่ดีให้กับตัวเอง และเป็นการคิดในแง่บวก (positive thinking) ทำให้เราไม่ท้อถอยเมื่อเจออุปสรรคต่างๆ คะ<br /></span><br /><span style="color:#000099;">เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 มีนาคม 2551 ดิฉันก็มาทำงานตามปกติเหมือนอย่างทุกวัน พอมาถึง ปุ๊บ หัวหน้าของดิฉัน หรือ พี่แป๊ด (ที่ทุกท่านคงรู้จักกันดี) ก็พูดขึ้นปุ๊บว่า "บีวันนี้เป็นพิธีกร ด้วยนะ" ดิฉันก็คิดในใจทันที "ซวยแล้วเรา ยังไม่ได้เตรียมเป็นพิธีกรมาเลย อืม...เมื่อวานก็ลืมถามพี่เค้าด้วยว่าจะให้เราเป็นพิธีกรหรือเปล่า" แต่ก็ได้รับปากพี่เค้าไป เพราะคิดว่ายังงัยเราก็ต้องทำให้ได้ (The Show must go on) หลังจากนั้น ก็เลยรีบหยิบตัวโครงการฯ เพื่อจะร่างคำกล่าวเปิด และก็ฝึกพูดอีกนิดหน่อย เพราะมีเวลาไม่มากนักคะ<br /><br />ก่อนอื่น ก็ขอเล่าความเป็นมาซักนิดนึงก่อนนะคะ เพื่อให้ทุกท่านไม่งงไปมากกว่านี้ คือ วันที่ 10 มีนาคม 2551 เวลา 13.00 - 16.00 น. เป็นวันที่ คณะวิทยาศาสตร์ ได้กำหนดให้มีเวทีเล่าสู่กันฟังในหัวข้อ " การจัดการความรู้กับการจัดการชุมชน ของ อบต.ท่าข้าม" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้ไปศึกษาดูงาน ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จากตัวแทนกลุ่มที่ไม่ได้ไปศึกษาดูงานที่ อบต.ท่าข้าม คะ ซึ่ง ในวันนั้น ทางคณะวิทยาศาสตร์ ก็ได้เชิญท่านนายก อบต.ท่าข้าม มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย ซึ่ง ดิฉันรับหน้าที่เป็นพิธีกรในหลักสูตรนี้ (อย่างที่กล่าวไว้ตอนเริ่มต้น)<br /><br />สำหรับบรรยากาศของกิจกรรมในวันนั้นก็เป็นไปด้วยความสนุกสนานมาก เพราะตัวแทนของแต่ละกลุ่มที่ได้ไปศึกษาดูงาน ต่าง Present กันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะ กลุ่มที่ 1 ซึ่งตัวแทนภายในกลุ่มจะประกอบด้วย คุณธนทรัพย์ฯ , คุณจีราณีฯ และ คุณจุรีรัตน์ฯ ซึ่งแต่ละคน บอกได้เลยว่าพูดเก่งๆ กันทุกคน โดยเฉพาะคุณธนทรัพย์ฯ คะ ซึ่งทำหน้าที่ เป็นนักประชาสัมพันธ์ ของคณะวิทยาศาสตร์ เป็นคนที่พูดเก่ง และพูดได้เป็นธรรมชาติมาก (อยากพูดเก่งเหมือนพี่เค้ามั่งจัง) ทำให้บรรยากาศภายในงานมีแต่ความสนุกสนาน ในส่วนของท่าน นายก อบต.ท่าข้าม ดิฉันก็ประทับใจท่านเป็นอย่างมาก เพราะท่าน<span style="color:#990000;">ได้ให้แง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการจัดการความรู้ไว้หลายแง่คิด พอจะสรุปได้ดังนี้นะคะ<br /></span><br /><span style="color:#ff0000;">- ท่านบอกว่า ที่ อบต. ท่าข้าม นั้น ท่านบริหารงานแบบที่ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน ทุกคนเสมอภาคต่อกัน และท่านก็เป็นคนทำงานแบบจริงจัง ไม่ใช่ทำงานแบบเรื่อยๆ เช้าชาม เย็นชาม โดยท่านให้เหตุผลว่า นายก อบต. มีวาระการทำงานแค่วาระละ 4 ปี ถ้าทำดีก็อาจจะได้เลือกให้เป็นนายก อบต. ต่อ หรือ ถ้าทำไม่ดีก็อาจจะไม่ได้รับเลือกมารับหน้าที่ต่อไป ดังนั้น ใน 4 ปี นี้ ท่านจะต้องรีบพัฒนา อบต. ท่าข้าม ให้พัฒนาในเรื่องต่างๆ ให้ได้ ซึ่งเมื่อได้ยินท่านพูดแบบนี้แล้ว ดิฉันก็เกิดความประทับใจในตัวท่านมาก เพราะท่านเป็นคนที่ลุยกับงาน จริงจัง และเป็นผู้นำที่ดีของประชาชน คงเป็นเพราะแบบนี้ จึงทำให้ท่านได้ใจประชาชนไปเต็มๆ จนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต. ท่าข้าม 3 วาระด้วยกัน จึงทำให้ดิฉันนึกกลับไปว่า ทำมัย อบต. ที่บ้านของดิฉันเอง ถึงไม่พัฒนาเหมือนที่ อบต. ท่าข้ามบ้าง ทั้งๆ ที่ก็อยู่ไม่ห่างไกลกันเลย ถ้า อบต. ที่บ้านของดิฉัน เข้มแข็งให้ได้อย่าง อบต.ท่าข้ามสักครึ่งนึงก็คงจะดีไม่น้อย.....(แหะๆๆ ว่าบ้านเกิดตัวเองซะแว้วววว)<br /><br />- แง่คิดสุดท้ายที่ท่าน นายก อบต.ท่าข้าม ได้ให้ไว้ ก็คือ ถ้าคณะวิทยาศาสตร์ จะทำให้การจัดการความรู้บังเกิดผล นั้น ทุกคนจะต้องปรับแนวคิดของตัวเอง และเปิดใจยอบรับ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ ก็ต้องดึงทุกคนให้มามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ เพราะถ้าทุกคนไม่มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม และต่างคิดว่า เป็นการเพิ่มภาระงานให้กับตัวเอง ก็จะทำให้การจัดการความรู้ภายในคณะวิทยาศาสตร์ ไม่บังเกิดผลอย่างแน่นอน...<br /></span><br />วกมาเรื่องของดิฉันอีกสักนิดนะคะ สำหรับดิฉันที่วันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ก็รู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนาความสามารถในการเป็นพิธีกรขึ้นมาอีกระดับนึงคะ เพราะวันนี้ดิฉันเป็นพิธีกรที่พูดเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีการพูดแซวคน Present บ้าง เป็นบางครั้ง จึงทำให้บรรยากาศภายในงานดีขึ้นกว่าเดิม ที่ดิฉันบอกว่าได้พัฒนาความสามารถในการเป็นพิธีกรอีกระดับนึง ก็เพราะ เมื่อก่อนดิฉันเป็นพิธีกรที่พูดได้ฟืดมากคะ ไม่มีมุขขำอะไรเลย ทำให้ไม่มีสีสัน และเป็นพิธีกรที่พูดตาม Script เกือบทุกอย่าง จึงทำให้บรรยากาศดูเคร่งเครียด อึมครึมไป ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของดิฉันเองด้วย ที่เป็นคนนิ่งๆ เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ถ้าไม่สนิทกับใครจริงๆ ก็จะไม่ปล่อยลูกบ้าออกมา ก็เลยทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นพิธีกรที่ดีบ้างเหมือนกันคะ ดังนั้น เมื่อดิฉันได้พัฒนาความสามารถในการเป็นพิธีกรได้ดีขึ้น ก็ทำให้ดิฉันเกิดความภูมิใจในตัวเอง เพราะถึงจะเป็นแค่เรื่องภูมิใจ เรื่องเล็กๆ ก็ตาม แต่ดิฉันก็คิดเสมอว่า คนเราเมื่อทำอะไรแล้วประสบผลสำเร็จ แม้แต่เป็นเรื่องเล็กๆ เราก็ต้องภูมิใจในตัวเองไว้ก่อน เพราะมันจะเป็นการสร้างกำลังใจที่ดีให้กับตัวเอง และเป็นการคิดในแง่บวก(positive thinking)ทำให้เราไม่ท้อถอยเมื่อเจออุปสรรคต่างๆ คะ<br /><br /></span><span style="color:#990000;">ถึงการเป็นพิธีกรของดิฉันในวันนี้จะตะกุกตะกัก , ผิดพลาดไปบ้าง เนื่องจากได้ฝึกซ้อมมาน้อย แต่ดิฉันก็ไม่ซีเรียสอะไรหรอกนะคะ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของมือใหม่หัดเป็นพิธีกร มันก็ต้องผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา ก็เลยอยากจะฝากท่านอื่นไว้นะคะ ที่อาจจะเป็นพิธีกรมือใหม่ ว่า ก่อนวันที่ท่านจะต้องเป็นพิธีกร ท่านต้องฝึกพูดให้คล่อง , กำหนดการต้องแม่น และฝึกยิ้มให้เยอะๆนะคะ เพราะถ้าท่านฝึกพูดไว้เยอะๆ ก็จะทำให้ความผิดพลาดในการเป็นพิธีกรของท่าน มีเปอร์เซ็นต์น้อยลง หรือท่านอาจจะไม่ผิดพลาดเลยก็ได้คะ ส่วนในเรื่องของกำหนดการที่บอกว่าต้องแม่น เนื่องจากจะช่วยให้ท่านลำดับขั้นตอนได้ว่า ต่อไปจะเป็นกิจกรรมอะไร ท่านต้องดำเนินรายการอย่างไร เพราะบางท่านอาจจะตื่นเวทีจนทำให้ลืมขั้นตอนไปได้คะ ส่วนการฝึกยิ้มให้เยอะๆ ก็เพราะจะเป็นการสร้างบรรยากาศภายในงานให้ดีขี้นคะ และยังเป็นแสดงถึงการต้อนรับผู้มาเข้าร่วมงานในทางอ้อมด้วยนะคะ.. สำหรับบันทึกฉบับนี้ ก็ขอฝากไว้แค่นี้ก่อนนะคะ พบกันใหม่ในบันทึกฉบับต่อไปคะ..สวัสดีคะ</span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-20784265352404273502009-09-02T04:58:00.000-07:002009-09-02T05:02:19.914-07:00ตัวอย่างโครงสร้างการพูดในงานต่างๆศูนย์ข้อมูลข่าวสารเมืองพัทยา<br /><br />ต่อไปนี้เป็นเพียงแนวทางโครงสร้่างการพูดในงานลักษณะต่างๆ เพื่อให้ท่านได้ศึกษาเป็นข้อมูลในการวางแผนการทำหน้าที่พิธีกร ซึ่งผู้เขียนได้เรียงตามลำดับขั้นตอนจากเริ่มต้นจนสิ้นสุดในแต่ละงานเพื่อง่ายแก่การเข้าใจ<br /><br />การพูดในงานแต่งงาน<br /> 1) เชิญคู่บ่าวสาวบนเวที<br /> 2) เชิญบิดา-มารดาของคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวที<br /> 3) เชิญผู้สวมมาลัยมงคลขึ้นสวมมาลัยแก่คุ่บ่าวสาว<br /> 4) เชิญประธานในงาน(ซึ่งโดยปกติมักจะเป็นท่านเดียวกับข้อ 3) กล่าวอำนวยพร<br /> 5) เชิญเจ้าภาพกล่าวคำอวยพร(อาจจะเป็นบิดา-มารดาของฝ่ายใดก็ได้ หรือบางงานจะมีผู้ใหญ่ซึ่งคู่บ่าวสาวเชิญไว้เป็นผู้กล่าว<br /> หมายเหตุ โครงการพูดจาอาจยืดหยุ่นตามใจเจ้าของงาน แต่ควรแนะนำเจ้าภาพว่าไม่ควรยืดเยื้อ หากมีการตัดเค้กต้องดำเนินการหลังคู่บ่าวสาวกล่าวจบ<br /><br />การพูดในงานเกษียณอายุ<br /> 1) เชิญผู้เกษียณอายุขึ้นบนเวที<br /> 2) เชิญประธานในงานกล่าว(หากมีผู้พูดมากว่า 1 ท่าน ให้พูดต่อจากประธานเลย)<br /> 3) เชิญผู้มอบดอกไม้/ของขวัญทำพิธีมอบ<br /> 4) เชิญผู้เกษียณอายุกล่าวขอบคุณ<br /> หมายเหตุ หากมีพิธีกรอื่นใดเป็นพิเศษ พิธีกรต้องปรับและสอดแทรกให้เหมาะสมแต่โครงสร้างที่นำเสนอนี้เป็นเพียงคร่าวๆ<br /><br /> การพูดในการแนะนำผู้อื่นพูดอื่น (ผู้อภิปราย/ผู้บรรยาย/วิทยากร)<br /> 1) หากมีการกล่าวประวัติของผู้ที่จะพูด ควรอ่านประวัติก่อนอย่าเพิ่งเอ่ยชื่อ-สกุล เมื่ออ่านจบจึงอ่านจบจึงเอ่ย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเน้นความสำคัญแก่ผู้นั้น และยังเป็นช่วงให้ผู้ฟังปรบมือต้อนรับ<br /> 2) หากกรณีเป็นพิธีกรในการอภิปรายควรแนะนำเฉพาะผู้ดำเนินการอภิปรายเ่ท่านั้นเพราะหน้าที่แนะนำองค์อภิปรายอื่นเป็นหน้าที่ของผู้ดำเนินการอภิปราย ยกเว้นผู้ดำเนินการอภิปรายร้องขอ<br /> 3) เมื่อผู้พูดทั้งหลายพูดจบ ไม่ควรพูดว่า “ขอเชิญท่านปรบมือให้แ่ก่ท่านวิทยากรอีกครั้งค่ะ(ครับ)”ไม่ แต่พิธีกรควรพูดเพียงว่า “ขอบพระคุณค่ะ(ครับ)” แล้วปรบมือนำทุกคนก็จะปรบตามจะดูดีและเป็นธรรมชาติกว่า<br /><br /> การพูดในงานฌาปนกิจศพ<br /> 1) กรณีเป็นการพระราชทานเพลิงศพ จะมีลำดับขั้นตอนการพูดค่อนข้างตายตัว กรุณาดูเพิ่มเติมท้ายเรื่อง<br /> 2) กรณีงานฌาปนกิจศพ จะมีโครงสร้่างการพูด ดังนี้<br /> 2.1 กล่าวประวัติผู้วายชนม์<br /> 2.2 เชิญชวนให้ยืนไว้อาลัย<br /> 2.3 กล่าวนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นพิจารณาผ้าบังสุกุล<br /> 2.4 กล่าวนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นประชุมเพลิง<br /> 2.5 กล่าวเชิญฆราวาสขึ้นประชุมเพลิง<br /> 2.6 กล่าวขอบคุณผู้ร่วมงาน<br /><br /> โครงสร้างการพูดมีลักษณะหลากหลาย บางงานอาจจะมีลักษณะเฉพาะตัว แต่โดยส่วนใหญ่จะมีหลักการเีดียวกัน จึงขอนำเสนอเพียงบางตัวอย่างเท่านั้นD.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-83949782626300351632009-09-02T04:16:00.000-07:002009-09-04T21:51:59.363-07:00พิธีกรงานแต่งงานแบบมุกตลก<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiEhRLx9NqRmsmzuV_Pn904rYhur1xuFTEsDi94wd0fAi1JE4L4nigiZ8TKDq0z8eO7Vo2_hRRSbtbSX4St2_7pGH6jtlBFe745YEev2yJIvyhudBrfW1sRCX7ltB0aITBXvQGyYshMGQI/s1600-h/CAIJVCDK.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377838461073770866" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 129px; CURSOR: hand; HEIGHT: 162px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiEhRLx9NqRmsmzuV_Pn904rYhur1xuFTEsDi94wd0fAi1JE4L4nigiZ8TKDq0z8eO7Vo2_hRRSbtbSX4St2_7pGH6jtlBFe745YEev2yJIvyhudBrfW1sRCX7ltB0aITBXvQGyYshMGQI/s320/CAIJVCDK.jpg" border="0" /></a><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">เคยไปงานนึงนึกว่าไปดูตลกคาเฟ่ พิธีกรตลกมากเลย เรียกเสียงฮาได้ แต่เขาก็จะฮาบ้างพิธีการบ้าง สรุปแล้วประทับใจค่ะงานนี้ แบบว่ามีคนไปจองตัวพิธีกรคนนี้ให้ไปงานถัดไปเลย </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">ก็จะยกตัวอย่างให้ดู</span><br /><span style="font-family:Courier New;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">ขึ้นเวทีตอนแรกก็สวัสดีแขกทุกท่าน และแนะนำตัวคุณว่าเป้นใคร ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับทั้งเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว ก็บอกไปและบอกว่าทำไมคุณถึงได้เชิญมาเป้นพิธีกร อาจจะแทรกมุจตลกตรงนี้ได้เช่น เจ้าบ่าวหมดงบเลยเอามาเป็นพิธีกรเพราะเชิญคุณฟรีแถมได้ค่าซองอีก หรือ คุณเป็นเพื่อนสนิทเพื่อนซี้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวและไม่ยอมเด็ดขาดถ้าไม่เชิญคุณมาเป้นพิธีกร หลังจากที่ขู่กรรโชกมาร่วมเดือนก็ทำสำเร็จ</span> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyFrMpJH_B2FwnTb7tRB4VoTwhg9Owe3NDIuug0YkUThJGLLyC6BAX0OMHsokZuGRWuQhL_VPS1XsHs_3ctF00q3XnbOxSas6UqrvkBZtMBxT080Onz4d4ifhSffpzAGPVI0NBNuMZXx4/s1600-h/55.bmp"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377838781413274914" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 182px; CURSOR: hand; HEIGHT: 195px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyFrMpJH_B2FwnTb7tRB4VoTwhg9Owe3NDIuug0YkUThJGLLyC6BAX0OMHsokZuGRWuQhL_VPS1XsHs_3ctF00q3XnbOxSas6UqrvkBZtMBxT080Onz4d4ifhSffpzAGPVI0NBNuMZXx4/s320/55.bmp" border="0" /></a><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">พอแนะนำตัวและทุกอย่างเสร็จ มันจะถึงฤกษ์ที่จะต้องก็เชิญเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที และประธาน ตรงนี้ก็อาจจะแทรกอะไรน่ารักๆตรงที่ พอทั้งเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีเรียบร้อยแล้ว คุณก็บอกว่า ขอแนะนำคู่รักที่หวานแหววที่สุดแห่งปี คุณ......และ คุณ .......ตรงที่เชิญประธานก็เอาแบบพิธีการหน่อย ต้องสุขุม จากนั้นก็ให้ประธานขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กับแขก ก็บอกว่า เรียนเชิญคุณ.......ขึ้นกล่าวอวยพรแก่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวครับ/ค่ะ พอกล่าวเสร็จไชโยๆๆ เสร็จก็กล่าวขอบคุณท่านประธาน</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">มาถึงตรงนี้ก็กลับมาเป้นแบบสบายๆ กันบ้าง ก็หันมาคุยกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามแบบฉบับว่าไปเจอกันมาได้ยังไงและรักกันมากี่ปี อยากบอกอะไรกับคู่รักทุกคู่ในงานนี้ไหมจากนั้นก็เปลี่ยนมาบอกว่า งั้นอยากฟังบ้างว่าแขกๆที่มาในงานนี้รู้สึกยังไง ก็ให้แฟนคุณที่เป้นพิธีกรคู่ลงไปสัมภาษณ์ญาติๆเพื่อนๆ </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">ก่อนอื่นต้องไปที่เพื่อนก่อนสัก 3 คน ก็ไปสัมภาษณ์ประมาณว่า เป็นเพื่อนกับใคร ถามว่าอาหารอร่อยไหม อยากบอกอะไรกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวไหม หรือถามอะไรก็ได้ที่คิดว่าเขาจะตอบตลกๆ สุดท้ายก็ขาดไม่ได้คือเดินไปที่พ่อของทั้งสองฝ่ายแล้วถามว่า อยากจะบอกอะไรกับคู่รักทั้งสอง</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">พอถามเสร็จก็ขึ้นมาบนเวที และให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวอะไรสักหน่อยกับแขกทั้งหมดที่อยู่ในห้องนี้ สุดท้ายก็บอกถ้าคิดว่ามันจะไม่เห่ยเกินไป ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวหอมแก้มกัน หรือ ถ้าเกิดทั้งสองเตรียมเพลงมาร้องให้ผู้ชม (ตรงนี้อาจจะเป็นไฮไลท์ของงาน)ก็บอกว่า ขอปิดท้ายตรงนี้ด้วยเพลงจากคู่รักที่หวานแหววที่สุดแห่งปีจบ </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">เอาไปลองดู อันนี้แค่เสนอค่ะ </span><br /><span style="font-family:Courier New;color:#ff0000;">.......................</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyQwkNLOZwvclA4k7aE-1USjecHgoEsDdOq6gzcjNNH3Gt8nEBQQc9OfsMz6yQU324Xwpozd8wTx2k7I23QFky8N_ycRhZodxdaREgQPZPJBGDIhSj6zSyBcNDbVCKiI1xdlscOnjyxJ4/s1600-h/22.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377838993642619970" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 135px; CURSOR: hand; HEIGHT: 123px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyQwkNLOZwvclA4k7aE-1USjecHgoEsDdOq6gzcjNNH3Gt8nEBQQc9OfsMz6yQU324Xwpozd8wTx2k7I23QFky8N_ycRhZodxdaREgQPZPJBGDIhSj6zSyBcNDbVCKiI1xdlscOnjyxJ4/s320/22.jpg" border="0" /></a><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">มีคำอยู่ 3 คำสำหรับชีวิตแต่งงานครับ....(ลอกงานตัวเองมาไม่ถูกทั้งหมดนะครับ เพราะผมมั่วเพิ่ม)</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">แข็ง ใหญ่ ยาว</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">1.ขอให้คู้บ่าวสาวมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะอุปสรรคมันเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าในงานหรือชีวิตครอบครัว ให้ช่วยกันประคองจนกว่าจะข้ามไปได้</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">2.ให้มีใจที่ยิ่งใหญ่ ...คือ มีใจในการให้อภัย เรื่องเล็กเรื่องน้อย ก็ให้อภัยกันและกัน เพราะครอบครัวจะอยู่กันได้ยืนยาวก็ต่อเมื่อรู้จักให้อภัย และคนทุกคนย่อมเคยทำความผิด (และอะไรต่อมิอะไรไปดำน้ำเอา)</span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">3.ให้มองให้ยาว มองให้ไกล ซึ่งจากที่มองดูเจ้าสาว/บ่าว ก็มีสายตายาวไกลกันทั้งคู่ เพราะดูจากการเลือกคู่....(มั่วเอานะ).. และการวางแผนของครอบครัวในอนาคต ย่อมสามารถลดปัญหาในการดำเนินชีวิตได้ ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินโดยไม่จำเป็น.....ประมาณนี้ </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEik0FMV8Frn-1-1KcPmlvsP1ieC29J84ceAg515zxVDMVv22YM3LXka51G7r7DGRwUKVdYYe4VT-ILFzPOvMR8sR-9C6yVd9befJVMdwHoHmTVlkiv_gZJ-LxdjnjQ0ElxBpgZHu0SNnLM/s1600-h/77.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5377839654061514178" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 108px; CURSOR: hand; HEIGHT: 136px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEik0FMV8Frn-1-1KcPmlvsP1ieC29J84ceAg515zxVDMVv22YM3LXka51G7r7DGRwUKVdYYe4VT-ILFzPOvMR8sR-9C6yVd9befJVMdwHoHmTVlkiv_gZJ-LxdjnjQ0ElxBpgZHu0SNnLM/s320/77.jpg" border="0" /></a>หรือไม่ก็แต่งเพิ่มได้ครับจาก แข็ง ใหญ่ ยาวหรือจะเป็น เล็ก อ่อน สั้น </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">เล็ก-รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ตามอัตภาพ</span> <span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">นกน้อยทำรังแต่พอตัว </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">อ่อน-อ่อนให้แก่กัน พูดจาไพเราะปิยะวาจา </span><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;">สั้น-รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ </span><br /><span style="font-family:Courier New;color:#ff0000;">.........</span><br /><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;color:#ff0000;"></span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-72296701071908831922009-09-02T02:28:00.000-07:002009-09-02T04:09:26.474-07:00ทักษะการเป็นพิธีกร<span style="color:#3333ff;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376802478639211058" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 165px; CURSOR: hand; HEIGHT: 276px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHXlgl64fgajIM2M0FAs2bZyrFOCVIn_fJLN-4pers7AuZqR5v21EnXiKMTLvl2vUKBeFdvb3ntcoIh9ccEtLv0pLLutvhT8A2vGoC9cKNXHZDiB_CTMmpK6ocbPC-i1GsFK_ADwQNDP8/s320/DSC000971.jpg" border="0" /></span><span style="color:#990000;"><span style="font-family:arial;font-size:85%;">โดย...นางสาววิธญาพร เอกหิรัณยราษฎร์</span><br /></span><br /><div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;"><strong>พิธีกร</strong></span> ภาษาอังกฤษใช้คำย่อว่า “MC” ซึ่งมาจากคำเต็มว่า “Master of Ceremonies” ไทยใช้คำว่า “พิธีกร” ซึ่งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ให้ความหมายไว้ว่า ผู้ดำเนินการในพิธี, ผู้ดำเนินรายการ ดังนั้น พิธีกร จึงเป็นผู้ที่ดำเนินการในงานพิธีการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน รู้ขั้นตอนของงาน สามารถจัดลำดับขั้นตอนของงานได้อย่างเหมาะสม และราบรื่นเรียบร้อยจนเสร็จงาน โดยเป็นผู้พูดสื่อสารกับผู้ได้รับเชิญกับแขกที่มาร่วมงาน หรือผู้เป็นวิทยากรกับผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา เป็นต้น</span></div><div><div><div><div><div><div><div><div><br /><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;">อีกความหมายหนึ่ง</span>จากพจนานุกรมว่า พิธีกร คือ ผู้ดำเนินการรายการก็แสดงว่าผู้ที่ต้องดำเนินรายการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อหน้าที่ประชุม หรือดำเนินรายการเพื่อออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ในฐานะผู้ที่ทำหน้าที่สื่อสารกับผู้ที่ได้รับเชิญให้มาพูดคุยเรื่องราวต่างๆ หรือมาเพื่อแสดง หรือเพื่อปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งให้คนฟัง (หรือคนดู) ได้รู้ก็เป็นพิธีกรด้วย ดังนั้นผู้ที่ทำหน้าที่สัมภาษณ์บุคคลที่คนฟัง (หรือคนดู) สนใจ หรือผู้ที่พูดเพื่อดำเนินรายการเกมโชว์ต่างๆ ทางโทรทัศน์ก็ถือว่าเป็นพิธีกรด้วยตามความหมายของพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 </span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjd7s0wsX2chXXmhpX8fe7eO9G-PdZmEFrBH9axCMrZLxx0iJ3RzpV3tAJVKDpYyaGt4otN7ceu7XkoYVmVsBaxWxqnAA__C0_Y5wUysDRw33WBU3GYFoKgLUx8X1xAQKO6r8WDsEBSzwo/s1600-h/DSC015461.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376821461763545314" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 276px; CURSOR: hand; HEIGHT: 207px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjd7s0wsX2chXXmhpX8fe7eO9G-PdZmEFrBH9axCMrZLxx0iJ3RzpV3tAJVKDpYyaGt4otN7ceu7XkoYVmVsBaxWxqnAA__C0_Y5wUysDRw33WBU3GYFoKgLUx8X1xAQKO6r8WDsEBSzwo/s320/DSC015461.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#ff0000;"><strong>พิธีกร </strong></span>ต้องพูดอย่างเป็นพิธีการมากกว่าการพูดของโฆษกในงานพิธีการ โดยต้องพูดตามลำดับขั้นตอนของงานแต่ละโอกาสอย่างเหมาะสม ผู้เป็นพิธีกรจะต้องให้คนฟังเห็นตัว ดังนั้นการแต่งกายต้องสวยงามเหมาะกับโอกาสแต่ละงาน แม้จะไม่สวยหรือไม่หล่อแต่บุคลิกภาพจะต้องดูดี สง่าผ่าเผย จะต้องยืนในตำแหน่งที่ทุกคนในงานหรือในที่ประชุมเห็นได้ชัดเจน พิธีกรจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางสื่อสารระหว่างผู้จัดงาน เจ้าภาพ กับผู้รับเชิญมาพูดหรือรับเชิญมาปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างผู้รับเชิญมาพูดกับผู้ฟัง พิธีกรจะต้องเชิญผู้มาพูดตามลำดับอาวุโสของบุคคลอย่างเหมาะสม โดยรวบรวมรายชื่อผู้ออกมาพูดจากเจ้าของงาน พร้อมกับต้องมีรายละเอียดของผู้ที่จะออกมาพูด หรือออกมาปฏิบัติด้วย และถ้าเป็นไปได้ พิธีกรควรหาโอกาสสอบถามรายละเอียดส่วนตัวจากผู้ที่ได้รับเชิญออกมาพูดเพิ่มเติมได้ด้วยตนเองก็ยิ่งดี แล้วเลือกเฉพาะข้อมูลที่เข้ากับบรรยากาศของงาน เข้ากับเรื่องที่จะเชิญมาพูดอย่างเหมาะสมด้วย</span> </span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiCnqB4o83g42tEirAZJqwuaFU9Yd5PHhdbXoAyp3GlcOXaQw1K6SMyoHqD6Auv-6riGDWnTb0d2rM2dOQmmjtbNRoYXm5dhB39Ludb9kRz9-XL0qWup12gHgEv5YFhU7sPjUHve89LDEA/s1600-h/S630041612.jpg"><span style="color:#3333ff;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376809198729919474" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 281px; CURSOR: hand; HEIGHT: 202px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiCnqB4o83g42tEirAZJqwuaFU9Yd5PHhdbXoAyp3GlcOXaQw1K6SMyoHqD6Auv-6riGDWnTb0d2rM2dOQmmjtbNRoYXm5dhB39Ludb9kRz9-XL0qWup12gHgEv5YFhU7sPjUHve89LDEA/s320/S630041612.jpg" border="0" /></span></a><br /><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"></span></div><br /><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;"><strong>พิธีกร </strong></span>เป็นบุคคลที่สำคัญในการดึงดูดความสนใจให้ผู้ฟัง หรือผู้ชมนั้น ติดตามในสิ่งที่พิธีกรต้องการนำเสนอ ตั้งแต่ต้นไปจนจบรายการ พิธีกรที่ดีจะต้องทำให้ผู้ฟังประทับใจในการดำเนินรายการให้ได้ ทั้งท่วงท่า วาจา กิริยาอาการต่างๆ ตลอดจนความสามารถในการทำให้ผู้ฟังมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรายการและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี การเป็นพิธีกรนั้นถือว่าเป็นการเรียกความสนใจของคนทั่วไป ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นตัวผู้พูด เพราะเสียงของพิธีกรสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ในระยะไกล เมื่อเป็นเช่นนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พิธีกรจะต้องมีพลังเสียงที่น่าฟังสามารถสะกดผู้ฟังให้สนใจในสิ่งที่พิธีกรนำเสนอได้และจำเป็นต้องมีทักษะอื่นๆ ประกอบอีกหลายด้านด้วยกัน การเป็นพิธีกรจึงไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นกันได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเสียทีเดียว หากเพียงฝึกฝนและปรับปรุงทักษะต่างๆ อยู่เสมอ สิ่งที่สำคัญในการเป็นพิธีกรคือการมีน้ำเสียงที่หนักแน่น ชัดเจน และน่าฟัง ไม่ใช่พูดเบาหรือค่อยจนเกินไป หรือพูดติดๆ ขัดๆ ไม่มีคำพูดติดปาก เช่น เอ้อ อ้า ครับ ค่ะ จึงต้องหมั่นฝึกฝนวิธีการพูด ทั้งการสะกด อักขระต่างๆ การออกเสียง ร ล ตัวควบกล้ำ ต้องชัดเจน น้ำเสียงต้องฟังง่ายและเป็นมิตรกับคนฟัง และยังต้องฝึกการพูดให้มีความเร็วที่เหมาะสม ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป ควรฝึกกลั้นลมหายใจเพราะเวลาพูดต่อกันหลายประโยคนานๆ จะได้ไม่เหนื่อย เวลาพูดควรทำจิตใจให้เบิกบาน เสียงจะได้มีความแจ่มใส และควรจะมีรอยยิ้มอยู่ด้วยเสมอ สิ่งเหล่านี้จะเป็นเสน่ห์ของพิธีกร </span><span style="color:#3333ff;"><br /></span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfJI2EhZ4n6WZeNQUdusdnYqUQhhT0aCXJ_demYq3DeEK-1r6SWfdJySna4-x2RTxTm1T2CyTcAisDbCaYErNiKE6BmtEsJ5-lHgpSLyAf3_U_tONLXND3uWhINlssChbp6Z1ma0o3VLQ/s1600-h/DSC010901.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376822310109729154" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 248px; CURSOR: hand; HEIGHT: 190px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfJI2EhZ4n6WZeNQUdusdnYqUQhhT0aCXJ_demYq3DeEK-1r6SWfdJySna4-x2RTxTm1T2CyTcAisDbCaYErNiKE6BmtEsJ5-lHgpSLyAf3_U_tONLXND3uWhINlssChbp6Z1ma0o3VLQ/s320/DSC010901.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;">สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ</span> การวางท่าทาง กิริยา บุคลิกลักษณะต่างๆ ต้องมีความมั่นใจ การยืนต้องสง่างาม การเดินต้องมีมาด ภาพพจน์โดยรวมต้องดูดี และเป็นไปในทางเดียวกันกับเรื่องราวที่พูดถึง หรือนำเสนออยู่ ใช้ลีลาประกอบให้เหมาะสม ควรฝึกหน้ากระจกเพื่อดูว่าตัวเราเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ควรฝึกฝนให้เป็นนิสัย มีบุคลิกที่ดี น่าสนใจอยู่เสมอ การใช้สายตา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องหมั่นฝึกให้มั่นคง เพราะเวลาพูดต้องมีสมาธิ แยกแยะให้ถูก ควรส่งสายตาไปยังผู้ฟัง ณ จุดใดจุดหนึ่ง อย่ากวาดสายตาไปมา แต่ควรใช้วิธีหันหน้าแทนเพื่อเปลี่ยนมุมมอง ไม่ควรทำตาหลุกหลิก หรือมองสิ่งอื่นที่ทำให้ไขว้เขว สบตากับผู้ฟังเป็นระยะระยะ และประสานสายตากับทีมงานบ้างเพื่อความเรียบร้อยของกำหนดการต่างๆ ว่าเป็นไปตามที่วางไว้หรือไม่ หรือหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดกะทันหันจะได้เตรียมตัวได้ทัน </span></div><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgnfBnXf9DmCPTusnnof3fTPQ_kSXlWZr-fD3kIv97b3dqZCWqyka-CnJXQ-k2yrVfE6bYp3P8I4ZwYRN9X7lCPZIhU4VWov_0ZFonDA9eAzai3dKr2NsI9O3er3EFYbeCdgPTaJ9epto/s1600-h/DSC011371.jpg"><span style="color:#3333ff;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376810767646359762" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 279px; CURSOR: hand; HEIGHT: 205px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgnfBnXf9DmCPTusnnof3fTPQ_kSXlWZr-fD3kIv97b3dqZCWqyka-CnJXQ-k2yrVfE6bYp3P8I4ZwYRN9X7lCPZIhU4VWov_0ZFonDA9eAzai3dKr2NsI9O3er3EFYbeCdgPTaJ9epto/s320/DSC011371.jpg" border="0" /></span></a><span style="font-family:arial;"><span style="color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;"><strong>การเป็นพิธีกรที่ดี</strong></span> ที่สามารถดำเนินรายการได้น่าสนใจนั้น ต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสม ศึกษากลุ่มผู้ฟัง ความสนใจต่างๆ สร้างบรรยากาศที่ดีในการดำเนินรายการ สื่อสารกับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และให้เกียรติผู้ฟังเสมอ เทคนิคที่สำคัญก็คือ การทำตัวให้กลมกลืนกับผู้ฟัง เช่น เมื่อเป็นพิธีกรด้านกิจกรรมสันทนาการ ต้องวางบุคลิกท่าทางให้มีความกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว การแต่งกายต้องเหมาะสม ยิ้มแย้มแจ่มใส หากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารหรือกึ่งทางการ ก็ต้องแต่งกายให้ดูดี สุภาพ เน้นความสะอาด เรียบร้อย เป็นต้น พิธีกรที่ทำงานสำเร็จนั้นต้องทำให้การดำเนินรายการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเสมอ คือสามารถสื่อสารข้อมูลวัตถุประสงค์ของการจัดงาน และผู้ฟังหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดงาน และสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังได้ รวมถึงสามารถทำให้ผู้ฟังติดตามชมตลอดจนจบรายการ พิธีกรที่ทำเช่นนี้ได้จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ดังนั้นพิธีกรที่ดีจึงควรมีปฏิภาณไหวพริบต่างๆ ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และตรึงคนดูไว้ให้จดจ่ออยู่กับการนำเสนอรายการให้ได้ ไม่ว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร พิธีกรที่ดีรู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร นอกจากนี้การจะเป็นพิธีกรที่มีความสามารถนั้นจำเป็นจะต้องศึกษาเทคนิคและวิธีการต่างๆและฝึกฝนตลอดเวลา </span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEixZXTel9MhvTWuAaNP4TYCH2h6DZjoucxS1h3bhGmboSDAZBfFaMiKioumHOdiQT8Wnfq30QY1xVDN-lxdRYPOVRJzJ68SRvy1bJ7aPXHTOZ7pbKafN3UA1jbuOdlz3SPkglYIGxopdt0/s1600-h/DSC011081.jpg"><span style="color:#3333ff;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376814696587259234" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 280px; CURSOR: hand; HEIGHT: 203px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEixZXTel9MhvTWuAaNP4TYCH2h6DZjoucxS1h3bhGmboSDAZBfFaMiKioumHOdiQT8Wnfq30QY1xVDN-lxdRYPOVRJzJ68SRvy1bJ7aPXHTOZ7pbKafN3UA1jbuOdlz3SPkglYIGxopdt0/s320/DSC011081.jpg" border="0" /></span></a></span><br /><br /><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#ff0000;"><strong>คำแนะนำสำหรับพิธีกรที่ดีมีดังนี้<br /></strong></span>1. ศึกษาจุดเด่น จุดด้อย ของพิธีกร ที่ชื่นชอบอะไรคือสิ่งที่ทำให้พิธีกรคนนั้นเป็นที่ชื่นชมของบุคคลทั่วไป แล้วลองนำเอาสิ่งที่คิดว่าดี มาประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเอง </span><br /><span style="font-family:arial;">2. ติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อทำตนเองให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ </span></span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">3. เรียนรู้การใช้เทคนิคการสร้างอารมณ์ขัน หรือเล่นมุข ด้วยการดัดแปลงเหตุการณ์เฉพาะหน้ามาเติมเสน่ห์ให้กับการดำเนินรายการ </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">4. จัดทำคลังความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น การใช้คำพูด สำนวน สุภาษิต คำพังเพย คำคมต่างๆ เก็บสะสมความรู้เหล่านี้ไว้เพื่อนำมาใช้ประกอบการดำเนินรายการ </span></div><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;">5. ฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วยการมองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในมุมที่คนอื่นมองข้าม แล้วสร้างให้เกิดเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม </span></div><div><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:arial;">6. อ่านหนังสือให้มาก </span><br /><span style="font-family:arial;">7. เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับเรื่องการเป็นพิธีกรอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นการพัฒนาความรู้ให้กับตนเองในแง่มุมของผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีความสนใจในด้านเดียวกัน ในมุมมองที่เราอาจจะนึกไม่ถึงก็ได้ </span></span></div><br /><div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"></span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgtdoM2BZ61SMNUHEw3wHNjhgl2voBz_tOYmu0wLEv1fP2v_8UqXyjWxJUu6LdK9Db6HHhjukrs8I-AfkaFoj1UdZ1RMQM1dmjGLYq-Eu_dvFwA1otICuTqTViYVs1CIhgMDdaNniI2IRY/s1600-h/DSC010941.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376823816479909762" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 284px; CURSOR: hand; HEIGHT: 184px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgtdoM2BZ61SMNUHEw3wHNjhgl2voBz_tOYmu0wLEv1fP2v_8UqXyjWxJUu6LdK9Db6HHhjukrs8I-AfkaFoj1UdZ1RMQM1dmjGLYq-Eu_dvFwA1otICuTqTViYVs1CIhgMDdaNniI2IRY/s320/DSC010941.jpg" border="0" /></a> <div><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;">นอกจากนี้ผู้ที่จะเป็นพิธีกรจำเป็นต้องฝึกฝนทักษะ</span>เหล่านี้ให้มาก ได้แก่ ทักษะในการพูดในโอกาสต่างๆ ทั้งคำทักทายหรือปฏิสันถาร คำกล่าวนำเพื่อโยงเข้าสู่เรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ การพูดชื่อและตำแหน่งบุคคลสำคัญ การแจ้งกำหนดการต่างๆ การแนะนำวิทยากร การกล่าวสรุป และการกล่าวขอบคุณ ทั้งนี้ต้องปรับให้เหมาะสมกับตัวพิธีกรเอง และบรรยากาศของงานที่จัด ซึ่งแล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล ไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี การเป็นพิธีกรจำเป็นจะต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ทักษะ และพรสวรรค์ต่างๆ มากมายดังที่กล่าวมา </span></div><br /><div><span style="color:#3333ff;"></span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEizfOLQ7z-YOw_Wya3d13gjdFUwAvh8XcaUPM8YqNBapp0027nO26PGeP4LumZ18EAjZxRSPTkYiPprdFM2c-AvGOr7uC_pDcEzGPGUJF6_uBvp2z5549yXWROSTSTeZR11D_XS8GG9Sxs/s1600-h/DSC010871.jpg"><span style="color:#cc0000;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376814076569372674" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 276px; CURSOR: hand; HEIGHT: 196px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEizfOLQ7z-YOw_Wya3d13gjdFUwAvh8XcaUPM8YqNBapp0027nO26PGeP4LumZ18EAjZxRSPTkYiPprdFM2c-AvGOr7uC_pDcEzGPGUJF6_uBvp2z5549yXWROSTSTeZR11D_XS8GG9Sxs/s320/DSC010871.jpg" border="0" /></span></a><span style="color:#cc0000;"><span style="font-family:arial;"> </span><span style="font-family:arial;">ผู้ที่สนใจจะเป็นพิธีกรที่ดีสามารถเรียนรู้จากศาสตร์ คือหนังสือเกี่ยวกับการเป็นพิธีกร และฝึกปฏิบัติโดยการเข้าอบรมและนำไปใช้จริง คือ นำไปใช้เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นพิธีกรในงานต่างๆ ทั้งงานที่เป็นพิธีการกึ่งพิธีการ และงานที่ไม่เป็นพิธีการก็จะช่วยให้เกิดศิลป์ในการเป็นพิธีกร </span></span></div><br /><div><span style="font-family:arial;"><span style="color:#3333ff;">..........................................................................................<br /></span></span><span style="font-family:arial;"></div></span><div><span style="font-size:85%;"></span></div><div><span style="font-size:85%;"></span></div><div><span style="font-size:85%;"></span></div><br /><div><span style="font-size:85%;">หนังสืออ้างอิง<br />มัลลิกา คณานุรักษ์.2545.เทคนิคการเป็นพิธีกรที่ดี.กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.<br />วทัญญู มุ่งหมาย.2549. ผู้ประกาศและพิธีกรในการดำเนินรายการ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />ยุดา รักไทย ปานจิตต์ โกญจนวรรณ. 2548. พูดอย่างชาญฉลาด. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท จำกัด.<br />นิเวศน์ กันไทยนราษฎร์. อยากเป็นพิธีกรดังฟังทางนี้. สุดสัปดาห์.<br />สืบค้น เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2550 จาก </span><a href="http://www.prettygang.com/articles"><span style="font-size:85%;">www.prettygang.com</span></a></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-82178932093884376922009-08-27T22:37:00.000-07:002009-08-27T23:05:29.201-07:00การฝึกพูดจากการฟังรายการวิทยุการฝึกวิธีนี้ก็คือการฝึกฟังและหัดพูดตามโฆษก หรือ นักจัดรายการวิทยุ หรือ อีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกตนเองก็คือ ดี.เจ. ก็จะเป็นแนวทางการฝึกพูดแนวหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ การพูดให้ถูกอักขระ ออกเสียงสำเนียงที่ถูกต้อง<br /><br />สำหรับท่านที่จะเป็นพิธีกร หรือ โฆษก ที่ดีนั้นก็ควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสอบรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกาศ จาก กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งจัดให้มีสอบทุกปี สามารถสอบถามตารางการสอบได้จาก สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัด หรือ เขตในจังหวัดของท่าน เมื่อสอบได้ใบอนุญาตแล้วก็หมายความว่า ท่านสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศของสถานีวิทยุ หรือ โทรทัศน์ได้ แนวทางการสอบนั้นทั่วไปก็จะเป็นการสอบการอ่านข่าวในพระราชสำนัก, ข่าวพยากรณ์อากาศ, ข่าวกีฬา และ ข่าวทั่วไป<br /><br />สถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์จะเป็นตัวอย่างต้นตำรับของการอ่านข่าวได้เป็นอย่างดี วิธีการพูดการอ่านนั้นเน้นชัดถ้อยชัดคำ การที่จะฝึกพูดจากการรับฟังสถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์นี้มีวิธีที่น่านำไปทดลองฝึกดูนั่นก็คือการบันทึกเสียงลงในม้วนเทปคาสเสท แล้วมาทบทวนการฟัง หรือ จะถอดเทปออกมาเป็นตัวอักษรบนกระดาษแล้วทดลองอ่านตาม แล้วบันทึกเสียงของท่านลงในเทปคาสเสท เมื่อย้อนกลับมาฟังเสียงของท่านเปรียบเทียบกับเสียงต้นฉบับที่บันทึกจากสานีวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์แล้วท่านก็จะได้พัฒนาการอ่านได้ระดับหนึ่งด้วย<br /><br /><span style="color:#000099;">ถ้าฝึกพูดแล้วเสียงยังไม่ชัเจน อักขระไม่ถูกต้อง เสียงไม่ดี ไม่น่าฟัง จังหวะลีลายังไม่ถูกใจ ก็ขอให้<span style="color:#ff0000;">ฝึกอ่านหนังสือออกเสียง (ปกติจะอ่านในใจ) วันละประมาณ ๑๐ นาที ทุกวัน เป็นเวลา ๓ เดือน</span> แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของการพูดว่าดีขึ้นในทุกๆ ด้าน <span style="color:#cc0000;">ข้อสำคัญต้องให้เป็นเสียงและจังหวะลีลาของตัวเอง อย่าไปลอกเลียนพิธีกร หรือ ดี.เจ. คนดังเป็นอันขาด<br /></span> </span>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-63304155736861247012009-08-27T21:32:00.000-07:002009-08-27T21:35:31.055-07:00การฝึกพูดในสโมสรฝึกพูดการเข้ารับการฝึกพูดในสโมสรฝึกพูดหลายๆสโมสรในประเทศไทยนั้น ส่วนมากการฝึกพูดจะเป็นไปตามหลักสูตร และ แนวทาง ของสโมสรฝึกพูดสากล หรือ Toastmasters International ที่มีสำนักงานกลางอยู่ที่เมือง Santa Ana, California, U.S.A. มี Website คือ <a href="http://www.toastmasters.org/">www.toastmasters.org</a> มีสาขาของสโมสรฝึกพูดอยู่ทั่วโลก สโมสรฝึกพูดไม่ว่าจะเป็นชุมนุมฝึกพูดตามสถาบันการศึกษาทั่วประเทศต่างก็ได้ใช้หลักสูตรแนวทางเดียวกัน<br /><br />วัตถุประสงค์หลักในการรับเข้าการฝึกพูดในสโมสรฝึกพูดก็คือการฝึกหัดให้พูด เป็น การฝึกพูดตามหลักสูตร หรือ แนวทางของการฝึกที่มาตรฐาน ก็คือการพัฒนาการพูด พัฒนาความกล้าพูดในที่ชุมชน และ ที่สำคัญที่สุดก็คือรับรับฟังการวิจารณ์จากผู้อื่น เพื่อให้การพัฒนาการพูดสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความหมายของแต่ละบทพูดของหลักสูตรการฝึกพูดมาพอสังเขปดังนี้<br /><br /> บทที่ 1 การแนะนำตัวเอง บทนี้มีจุดมุ่งหมายในอันที่จะให้ผู้พูดกล่าวแนะนำตนเองว่าเป็นใครมาจากไหน เกิดที่ไหน โตที่ไหน ประทับใจอะไร มีอุดมคติเป็นเช่นไร บทนี้เองที่นำพาให้ผู้ฝึกเปิดเผยตัวเองต่อผู้อื่นที่นั่งฟังอยู่ และเป็นก้าวแรกในการพัฒนาตนเอง<br /> บทที่ 2 การพูดจากใจจริง บทนี้มีจุดมุ่งหมายในอันที่จะให้ผู้พูด ให้กล่าวในเรื่องใดก็ได้ที่ท่านมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะถ่ายทอดความรู้สึกนั้นๆจากใจจริงของผู้พูดให้ผู้ฟังคล้อยตาม จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่สามารถสะท้อนปัญหาที่ควรจะได้รับความยุติธรรมหรือได้รับการแก้ไข<br /> บทที่ 3 การสร้างโครงเรื่อง บทนี้มีจุดมุ่งหมายในอันที่จะให้ผู้พูดรู้จักวิธีผูกเค้าโครงเรื่อง โดยมี 3 ท่อนๆแรกจะเป็นการกล่าวขึ้นต้น ท่อนสองจะเป็นเนื้อเรื่อง ท่อนท้ายก็จะเป็นบทสรุป<br /> บทที่ 4 การใช้มือประกอบการพูด บทนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะฝึกให้ผู้พูดฝึกการใช้มือประกอบการพูดให้เหมาะสม และสัมพันธ์การบทพูด<br /> บทที่ 5 การใช้น้ำเสียงระดับต่างๆ บทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มทักษะการใช้เสียงดังค่อยประกอบการพูด เพื่อให้ผู้ฟังสามารถคล้อยตามได้<br /> บทที่ 6 การพูดที่ได้จัดลำดับหัวข้อ บทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้ฝึกจัดเรียงความสำคัญของการพูดอย่างมีลำดับขั้นตอน เป็นการรวมเอาการพูดตั้งแต่บท 1 จนถึงบท 5 มารวมกัน<br /> บทที่ 7 การอ่านคำปราศรัย บทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้พูดสามารถอ่านรายงาน หรือ กล่าวปราศรัย ได้สมบูรณ์ และมีท่วงท่าในการกล่าวปราศรัย หรืออ่านรายงานสะกดผู้ฟัง<br /> บทที่ 8 การสร้างภาพพจน์ด้วยคำพูด บทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้พูดสามารถพูดให้ผู้ฟังเกิดภาพพจน์ จินตนาการคล้อยตาม หรือเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้<br /> บทที่ 9 การใช้ศัพท์สำนวน บทพูดบทนี้มีจุดมุ่งหมายในอันที่จะให้ผู้ดสามารถใช้ศัพท์ ที่แปลกไปจากภาษาพูดพื้นๆทั่วไปได้มากขึ้น<br /> บทที่ 10 การพูดในโอกาสพิเศษ บทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้พูดขึ้นพูดในโอกาสพิเศษ เช่นกล่าวแสดงความยินดี, อวยพร, ยกย่อง, งานเปิดป้าย, งานมงคลสมรส, รับงานใหม่ หรือ ส่งมอบงาน<br /> บทที่ 11 การสร้างโครงเรื่องอย่างละเอียดพิศดารบทนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาผู้พูดให้มีความละเอียดลึกซึ้ง เป็นขั้นสูงกว่าการเอา บทที่ 3 และ บทที่ 6 รวมกันให้ผู้ฟังเข้าใจ, พอใจ, คล้อยตาม<br /> บทที่ 12 ก้าวต่อไปของการฝึกพูด บทนี้ก็จะเป็นบทสรุปที่จะทำให้ผู้พูดมีความสามารถในอันที่จะนำเอาความรู้ในทุกบทความรวมกันเป็นหนึ่ง<br /><br /> หลังจากที่ได้เข้ารับการฝึกในสโมสรฝึกพูดจบลงแล้ว ท่านก็จะเป็นผู้หนึ่งที่พูดเป็น, ลดความประหม่า, ลดความอาย เพิ่มความกล้า, กล้าสู้สายตาผู้ฟัง, รู้จักการเรียงลำดับขั้นตอน, มีลักษณะการเป็นผู้นำเกิดขึ้น, สามารถควบคุมและพูดได้ตามสิ่งที่นึกคิดได้ในทุกโอกาส, สามารถรับฟังความเห็นของผู้อื่นโดยไม่ตอบโต้ ต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติของพิธีกรที่ดีในอนาคต<br /><br /> ข้อเสนอแนะ พิธีกร ที่ดีและอยู่ได้นานในเวทีของการเป็น พิธีกร นั้น หากขาดซึ่งการฝึกฝนแล้ว ยากนักที่จะดำรงคงความเก่งของตนเองได้นาน ดังนั้นหากท่านจะเป็น พิธีกร ที่ดีได้ก็ด้วยการฝึกฝน ซักซ้อม บ่อยๆยิ่งมากยิ่งดี ฝึกอ่าน อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หนังสือ ฝึกฟังจากวิทยุ และ โทรทัศน์ ฝึกพูดบ่อยๆให้เพื่อนให้ญาติให้ครอบครัวฟังบ่อยๆ พูดบ่อยๆ แล้วฟังคำวิจารณ์ของเขาเหล่านั้นว่าอยู่ในระดับใด พูดจนหมดคนฟังแล้วก็ไปพูดต่อหน้ากระจกเงา พูดบ่อยๆ ฝึกบ่อยๆ หรือ บันทึกเสียงแล้วถอยเทปกลับมาฟังตนเองวิจารณ์ตนเองว่าพูดเข้าตากรรมการหรือไม่ การฝึกต่างๆเหล่านี้ ช่วยท่านได้ ช่วยท่านเป็น พิธีกร ชั้นเลิศได้ เชื่อว่า ท่านทำได้D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-38838783265665812982009-08-27T20:30:00.000-07:002009-08-31T01:08:11.525-07:00พิธีกรงานสัมมนา<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTX8_0OL9WbY5570ogKxKPxDLkSRjggCiBop498J2k0Q9NrIs6JiK67zjLzydmxJ2X_3bOdK1aaDvnA3nS-XR0cXkVfgSIJz7psAQvnzicKmI99AfM-duIV2-ODSJ9PjMv2W2z0pwdCQM/s1600-h/DSC01426.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376034225333999746" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 247px; CURSOR: hand; HEIGHT: 260px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTX8_0OL9WbY5570ogKxKPxDLkSRjggCiBop498J2k0Q9NrIs6JiK67zjLzydmxJ2X_3bOdK1aaDvnA3nS-XR0cXkVfgSIJz7psAQvnzicKmI99AfM-duIV2-ODSJ9PjMv2W2z0pwdCQM/s320/DSC01426.JPG" border="0" /></a><br /><div><div><span style="color:#000099;">วัตถุประสงค์ : งานสัมมนา เป็นงานที่ให้ความรู้ เพิ่มพูนทักษะให้ผู้ร่วมสัมมนาจะต้องมีฝ่ายพิธีการที่เชี่ยวชาญ และพิธีกรที่ชาญฉลาดให้การพูดเพื่อผูกใจผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่เบื่อ </span></div><div><br /><span style="color:#000099;">ด้วยงานสัมมนานั้น เป็นงานที่รวมคนหมู่มากเข้ามาร่วมสัมมนาหาแนวทางความร่วมมือแก้ไขปัญหาพัฒนาวิชาการ ผู้เข้าร่วมสัมมนามีอยู่หลายประเภท กระตือรือล้น สนใจ ไม่สนใจ เบื่อ จำใจมา ถูกบังคับมา เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้จัดการสัมมนามักจะต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดหัวข้อสัมมนาให้เป็นที่น่าสนใจ และมีการติดตามผลอย่างจริงจัง ตัวอย่างเช่นในอดีตมีโครงการพัฒนาบุคคลที่ทำงานมานาน จัดสัมมนาเพื่อเป็นการเติมพลังงาน เฉกเช่นกับการอัดประจุไฟ หรือ เติมไฟแบตเตอรี่ ให้มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น มีผู้เข้าร่วมประชุมส่วนหนึ่งก็มานั่งฟังพร้อมๆกับการพักผ่อนนั่นก็คือการมานั่งหลับในห้องประชุม ฝ่ายพิธีการจะต้องจัดการประชุมสัมมนาให้รัดกุมและเร่งเวลาให้กระชับ จัดหาผู้พูด ผู้บรรยายที่พูดเก่ง คนฟังไม่นั่งหลับสัปหงก หาหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนา ให้ทุกคนตื่นตัวตลอดเวลา เพราะผู้บรรยายมักจะชี้มาที่ตนเองเพื่อให้ตอบ หรือ ออกความเห็นลักษณะนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียวที่จะคิดงีบ การสัมนนาต่างจังหวัดในหัวข้อหนักๆ จัดได้อย่างเก่งวันครึ่ง ถ้าหัวข้อไม่หนักก็สามารถใช้เวลา 1 วันเต็ม ถ้าหัวข้อเบาๆ จัดได้บ่อยๆ ก็จัดครึ่งวัน ช่วงบ่ายน่าจะเป็นการดี </span></div><div> </div><div><span style="color:#000099;">ช่วงเช้าก็จะเป็นช่วงของการเตรียมความเรียบร้อยของพิธีการและจัดเตรียมสถานที่<br />ขั้นตอนที่ 1. การลงทะเบียนผู้เข้าร่วมสัมมนา<br />ขั้นตอนที่ 2. พิธีกรเชิญประธานจัดงานกล่าวรายงาน<br />ขั้นตอนที่ 3. พิธีกรเชิญประธานในพิธีกล่าวอวยพรและเปิดการสัมมนา<br />ขั้นตอนที่ 4. พิธีกรแนะนำผู้เข้าร่วมสัมมนา<br />ขั้นตอนที่ 5. พิธีกรเชิญผู้ดำเนินรายการเริ่มสัมมนา<br />ขั้นตอนที่ 6. พิธีกรเชิญประธานจัดงานมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา<br />ขั้นตอนที่ 7. พิธีกรเชิญประธานจัดงานกล่าวปิดการสัมมนา </span></div><div><br /><span style="color:#000099;">เมื่อผู้เข้าร่วมประชุมพร้อม พิธีกรก็จะขึ้นสู่แท่นพูด สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้นับเป็นวันดีวันหนึ่งที่ทุกท่านได้มาร่วมสัมมนาในหัวข้อ......................................... ซึ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากที่สุดในรอบปีนี้ โดยที่ผู้จัดเชื่อว่าท่านจะได้รับความรู้และสนุกไปกับงานสัมมนา ในครั้งนี้ ก่อนอื่นใคร่จะขอเรียนเชิญท่านประธานจัดงานสัมมนา คือ คุณ...................................จะได้ขึ้นมากล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานในวันนี้ ให้แก่ท่านประธานและท่านผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านได้ทราบความเป็นมาพอเป็นสังเขป ขอเรียนเชิณ คุณ...................................ครับ/ค่ะ เมื่อประธานกล่าวจบลง พิธีกรก็จะกล่าวต่อในทันที ต่อไปขอเรียนเชิญท่านประธานในพิธี คุณ..................................................... ได้ให้เกียรติขึ้นมากล่าวอวยพรและกล่าวเปิดการสัมมนา ขอเรียนเชิญ คุณ .................................................... ครับ/ค่ะ เมื่อการกล่าวเปิดจบลงแล้ว พิธีกรก็จะกล่าวแนะนำผู้เข้าร่วมสัมมนา กรณีที่มีผู้เข้าร่วมสัมมนามาเป็นคณะก็กล่าวแนะนำเป็นคณะ แต่ละมาจากหลายหน่วยงานมากจนแนะนำไม่ได้ เนื่องจากจะใช้เวลามาก ก็อาจจะข้ามขั้นตอนการแนะนำนี้ไป ต่อด้วยการเชิญผู้ดำเนินรายการขึ้นทำหน้าที่ทันที ต่อไปขอเชิญผู้ดำเนินรายการสัมมนา ในวันนี้ ขอเชิญ คุณ.......................................... ดำเนินรายการต่อไปได้แล้วครับ/ค่ะ </span></div><br /><div><span style="color:#000099;"></span></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg8XIWWzEHLp1KjnYNSsAhn8D5fAvLpS1Oo_ySmnmmN_HQKl-ebUocGo-XgkEzg4VUjPpVWBywM1YU6MDE9kSX0LOnWhLj4B1oUglPu86zRlSKjnyV4i3dm2H_N23bOdiiRkf7zouJcdKo/s1600-h/P8206862.JPG"><span style="color:#000099;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374861478387264866" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 206px; CURSOR: hand; HEIGHT: 154px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg8XIWWzEHLp1KjnYNSsAhn8D5fAvLpS1Oo_ySmnmmN_HQKl-ebUocGo-XgkEzg4VUjPpVWBywM1YU6MDE9kSX0LOnWhLj4B1oUglPu86zRlSKjnyV4i3dm2H_N23bOdiiRkf7zouJcdKo/s320/P8206862.JPG" border="0" /></span></a><span style="color:#000099;"> </span><div><span style="color:#000099;">เมื่อการสัมมนาหรือการประชุมเชิงปฏิบัติการดำเนินไปถึงช่วงสุดท้ายของงาน พิธีกรก็จะขึ้นเชิญประธานมอบเกียรติบัตร ถ้าผู้เข้าร่วมสัมมนามีจำนวนมากเป็นร้อยคนก็ควรจะใช้วิธีให้ไปรับที่จุดลงทะเบียนก็น่าจะสะดวกกว่าการมอบ เนื่องจากรายชื่อและจำนวนคนที่จะรับนั้นส่วนมากมักจะสับสน เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนหนึ่งกลับก่อนเวลา </span></div><br /><div><span style="color:#000099;">ข้อเสนอแนะ การสัมมนาหลักใหญ่เจ้าของหัวข้อการสัมมนาต้องการให้ได้ข้อสรุป หรือ ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ข้อมูลและบทสรุปนำไปวิเคราะห์วิจัย อันจะเกิดประโยชน์สูงสุด พิธีกร และ พิธีการนั้นขอให้เน้นช่วยฝ่ายจัดดำเนินการประชุมสัมมนาเรื่องรักษาเวลาการประชุมสัมมนา ต้องอยู่ในกรอบของเวลาที่กำหนดอย่างชัดเจน จึงจะทำให้การสัมมนานั้นเป็นที่ยอมรับว่าสัมมนาแล้วได้ผล มีประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมประชุม </span></div></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-13669276374791101462009-08-27T20:15:00.000-07:002009-08-27T20:30:17.203-07:00พิธีกรงานแต่งงาน แบบที่ 2<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghFowhFluEMhIQtb5c7mqdn_dh7rkvmMAQ05tpJxeSPwjocLOOjdGNEPb3vvTpOVYHl9NVcAvNX-loi7otQX8zmNVRNAJdgeZvcyE8avxg8XCw0S7XVTjvvG3QGBVqfZ4Z4sLVDlvfy5E/s1600-h/%E0%B8%84%E0%B8%99.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374851775603331202" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 140px; CURSOR: hand; HEIGHT: 100px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghFowhFluEMhIQtb5c7mqdn_dh7rkvmMAQ05tpJxeSPwjocLOOjdGNEPb3vvTpOVYHl9NVcAvNX-loi7otQX8zmNVRNAJdgeZvcyE8avxg8XCw0S7XVTjvvG3QGBVqfZ4Z4sLVDlvfy5E/s320/%E0%B8%84%E0%B8%99.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#000099;">ในรูปแบบของงานแต่งงานที่มีรายละเอียดมากขึ้น ฝ่ายพิธีการจะต้องเตรียมรายละเอียดตามลำดับโดยเริ่มจากการสอบถามคู่บ่าวสาว หรือ เจ้าภาพ ซึ่งอาจจะเป็น พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าว หรือ พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว ว่าจะจัดงานกันที่ไหน เช่น สถานที่จัดงานจะจัดที่โรงแรม ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่หอประชุมประจำอำเภอ หอประชุมประจำจังหวัด จำนวนแขกเหรื่อที่จะเชิญจำนวนเท่าใด มีแขกผู้ใหญ่หรือไม่ จะเชิญผู้ใหญ่ที่เจ้าภาพเคารพนับถือสวมพวงมาลัยมงคลกี่คู่ ได้กำหนดตัว หรือ เชิญแขกผู้ใหญ่มาอวยพรหรือไม่ จะจัดเลี้ยงเป็นลักษณะใด เช่น เลี้ยงบุฟเฟต์ เลี้ยงโต๊ะจีน เลี้ยงแบบค็อคเทล เครื่องขยายเสียงเป็นแบบใด มีลำโพงกี่ตัว มีดนตรีประกอบงานหรือไม่ ลักษณะใด เป็นเปียโน อิเล็คโทน วงคอมโบ วงแบนโจ วงแชมเบอร์มิวสิค หรือ วงดนตรีวงใหญ่, จะมีการฉายวิดิโอ หรือ ฉายสไลด์ธรรมดา หรือ สไลด์มัลติวิชั่นจากคอมพิวเตอร์ ถึงประวัติของคู่บ่าวสาวหรือไม่? ใช้เวลาประมาณกี่นาที เพื่อจะให้รู้สภาพของงานที่จะจัดทำสคริปต์ให้สมบูรณ์เช่น ถ้าสามารถรู้ถึงสถานที่จัดงาน เราก็จะต้องศึกษาถึงสภาพของห้องจัดเลี้ยง ว่าเวทีจะเป็นรูปลักษณะใด จะต้องขึ้นลงด้านใด เวลาเชิญแขกจะขึ้นลงด้านใด เครื่องเสียงจะเป็นแบบใด เพื่อจะได้ทราบว่า งานนั้นจะสมบูรณ์ด้วยเครื่องขยายเสียงที่มีประสิทธิภาพของเสียงอย่างไรบ้าง </span><br /><br /><span style="color:#000099;">ฝ่ายพิธีการ ต้องจัดการเตรียมขั้นตอนการเชิญผู้สวมพวงมาลัยมงคล ตัวแทนแขกผู้มาร่วมงานให้คำอำนวยอวยพร ผู้บังคับบัญชาของคู่บ่าวสาวให้คำอวยพร และ ผู้กล่าวตอบขอบคุณ อาจจะเป็นตัวเจ้าภาพเองก็ได้ หรือจะเชิญผู้ที่เจ้าภาพเคารพนับถือก็ได้ บางงานผู้กล่าวตอบขอบคุณจะมีทั้งฝ่ายเจ้าบ่าว และ ฝ่ายเจ้าสาว แยกกันกล่าว หากจะมีการแยกกล่าวเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น จีน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น ก็จะต้องเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ดี </span><br /><br /><span style="color:#000099;">หากจะเลือกเชิญผู้ขึ้นกล่าวอวยพรในงาน เรียกว่ามาหาเอาในงาน ก็คงจะต้องเรียนให้ผู้ที่จะถูกเชิญให้ทราบก่อนพอสมควร พร้อมทั้งรายงานให้ทราบ ความเป็นมาของคู่บ่าวสาวพอเป็นสังเขป และ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ควรจะจดชื่อคู่บ่าวสาว ให้กับผู้ที่ขึ้นกล่าวอวยพร หรือ กล่าวตอบขอบคุณท่านนั้นด้วย พิธีกรต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า ตัวอักษรชื่อที่จะจดให้นั้นจะต้องจดชื่อด้วยตัวบรรจง อ่านง่าย และที่สำคัญจะต้องตัวโตพอสมควร เนื่องจาก ส่วนมากมักจะเชิญผู้อาวุโส หรือ ผู้มีเกียรติที่อยู่ในวงการค้าธุรกิจ ส่วนมากก็จะเป็นผู้ที่จัดอยู่ราววัยกลางคนไปแล้ว น่าจะต้องใช้แว่นสายตา ดังนั้นตัวหนังสือที่เขียนให้นั้นหากเป็นตัวโตก็จะช่วยได้อย่างยิ่ง </span><br /><br /><span style="color:#000099;">พวงมาลัยคู่บ่าวสาวจะต้องมีผู้จัดวางบนพาน, จัดเตรียมนำขึ้นสู่เวที, และหลังจากพิธีสวมมาลัยมงคลแล้ว จะต้องมีพี่เลี้ยง หรือ ญาติสนิท หรือ เพื่อนสนิทช่วยมองคู่บ่าวสาวให้พวงมาลัยที่สวมใส่อยู่นั้นจัดให้อยู่ในระดับพองามตลอดงาน เพื่อให้การถ่ายบันทึกภาพจะได้ผลดีที่สุด </span><br /><br /><span style="color:#000099;">พิธีการในแบบที่ 2 นี้ก็จะเพิ่มจากแบบง่ายอีกเล็กน้อยคือ<br />ขั้นตอนที่ 1 พิธีกร เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นสู่เวที<br />ขั้นตอนที่ 2 พิธีกร เชิญแขกผู้ใหญ่(สามี-ภรรยา) ขึ้นสวมพวงมาลัยมงคล<br />ขั้นตอนที่ 3 พิธีกร เชิญคู่บ่าวสาวจุดเทียนมงคล และ ตัดเค็ก มงคล<br />ขั้นตอนที่ 4 พิธีกร เชิญคู่บ่าวสาวลงจากเวทีไปทักทายขอบคุณแขกที่มาร่วมงานพร้อมถ่ายภาพ<br />ขั้นตอนที่ 5 พิธีกร เชิญแขกที่มาร่วมงานเริ่มรับประทานอาหาร<br />ขั้นตอนที่ 6 พิธีกร เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นสู่เวที เพื่อรับการอวยพรจากตัวแทนแขกที่มาร่วมงาน<br />ขั้นตอนที่ 7 พิธีกร เชิญเจ้าภาพฝ่ายเจ้าบ่าว และ เจ้าสาว ขึ้นบนเวที ยืนเคียงคู่กับคู่บ่าวสาว<br />ขั้นตอนที่ 8 พิธีกร เชิญเจ้าภาพ หรือ ตัวแทน กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน<br />ขั้นตอนที่ 9 พิธีกร เชิญเจ้าบ่าว เจ้าสาว กล่าวขอบคุณแขก<br />ขั้นตอนที่ 10 เสร็จสิ้นพิธีการบนเวที พิธีกรเชิญ แขกตามอัธยาศัย</span></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-68188442887235481782009-08-27T01:05:00.000-07:002009-08-27T05:53:58.837-07:00พิธีกรงานแต่งงาน<span style="font-size:85%;color:#990000;">โดย อานุภาพ ไทยอุปถัมภ์</span><br /><span style="font-size:85%;color:#990000;"></span><br /><span style="color:#3333ff;">วัตถุประสงค์ : พิธีมงคลสมรส หรือ พิธีการงานแต่งงาน หรือ จะเป็นพิธีฉลองสมรส หมายถึงการจัดงานโดยเจ้าภาพ เชิญแขกเหรือมาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน แก่คู่สมรส จำเป็นที่จะต้องจัดให้มีพิธีกร ที่รอบรู้ในการทำหน้าที่เป็นพิธีกรภายใต้พิธีการที่ได้ตระเตรียมขั้นตอนต่างๆอย่างรัดกุม </span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhaN0an714SrErb3Q9skLjM1jkI4nC5tJNwNIl77upZEsxgJBt00giaw-jq-edYjxA1UjWDPicQFGOWcfYWKa6nHoj2Go81HBu-WVvJqQNxnf8-CeCLry7ZD6NxPUOoeg3CHEryXDSXgJM/s1600-h/P8231599.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374568638304559442" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 169px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhaN0an714SrErb3Q9skLjM1jkI4nC5tJNwNIl77upZEsxgJBt00giaw-jq-edYjxA1UjWDPicQFGOWcfYWKa6nHoj2Go81HBu-WVvJqQNxnf8-CeCLry7ZD6NxPUOoeg3CHEryXDSXgJM/s320/P8231599.JPG" border="0" /></a><br /><div><div><br /><span style="color:#6600cc;">พิธีการงานแต่งงานแบบง่าย<br />พิธีการงานแต่งงานแบบง่าย งานมงคลสมรส งานฉลองสมรส หรือ งานแต่งงาน ไม่ว่าจะจัดที่ใดก็ ตามสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ พิธีการ และ พิธีกร พิธีการก็คือการจัดเตรียมรูปแบบทั้งหมดของงาน ตั้งแต่เริ่มว่างานทั้งหมดจะมีอะไรบ้าง เช่น ฝ่ายสถานที่, ฝ่ายบันเทิง, ฝ่ายการแสดง,ฝ่ายต้อนรับ, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย, ฝ่ายยานพาหนะ, ฝ่ายถ่ายรูป, ฝ่ายฉายสไลด์, ฝ่ายเสียง, ฝ่ายแสง, ฝ่ายพิธีการ, ฝ่ายพิธีกร ทั้งนี้ในบทนี้ก็จะกล่าวถึงพิธีการและพิธีกรโดยทั่วไป</span></div><div><span style="color:#6600cc;">จะมี 5 ขั้นตอน คือ<br />ขั้นตอนที่ 1. พิธีกรเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นสู่เวที<br />ขั้นตอนที่ 2. พิธีกรเชิญแขกผู้ใหญ่(สามี-ภรรยา)ขึ้นสวมพวงมาลัยมงคล</span></div><div><span style="color:#6600cc;">ขั้นตอนที่ 3. พิธีกรเชิญตัวแทนแขกกล่าวอวยพร<br />ขั้นตอนที่ 4. พิธีกรเชิญตัวแทนเจ้าภาพกล่าวตอบขอบคุณ<br />ขั้นตอนที่ 5. พิธีกรเชิญคู่สมรสกล่าวขอบคุณ </span></div><div><br /><span style="color:#000099;">ฝ่ายพิธีการ: จัดเรียงลำดับรายนาม 3 ชุด คือ </span></div><div><span style="color:#000099;">1.บุคคลที่จะขึ้นสวมพวงมาลัยมงคล </span></div><div><span style="color:#000099;">2.รายนามตัวแทนแขกที่จะขึ้นกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว และ </span></div><div><span style="color:#000099;">3.ผู้ที่จะกล่าวตอบขอบคุณในนามเจ้าภาพ หรือ ตัวแทน </span></div><div><span style="color:#000099;">รายนามที่ได้นี้จะต้องชัดเจนทั้งยศ ตำแหน่ง ชื่อ นามสกุล ที่ชัดเจนอ่านง่ายสำหรับพิธีกร สำหรับบุคคลที่จะขึ้นสวมพวงมาลัยมงคล ส่วนมากมักนิยมเชิญคู่สมรสที่มีอายุการครองเรือนยาวนาน หรือ ผู้บังคับบัญชาของคู่บ่าวสาว เป็นผู้สวมพวงมาลัยมงคล, อีกทั้งจัดเตรียมพวงมาลัยมงคลให้พร้อม, สำหรับตัวแทนแขกที่จะขึ้นกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว มักนิยมเชิญผู้ที่เจ้าภาพให้ความเคารพนับถือ หรือ ผู้มาร่วมงานที่มีความพร้อมที่จะขึ้นกล่าวอวยพร ส่วนการกล่าวตอบขอบคุณหากเจ้าภาพพร้อมที่จะกล่าวมักจะกล่าวตอบขอบคุณด้วยตนเอง หรือไม่ก็จะเชิญผู้ที่คุ้นเคยกับครอบครัวคู่บ่าวสาวขึ้นกล่าวตอบขอบคุณแขกผู้มาร่วมงาน ฝ่ายพิธีการก็จะนำรายชื่อมอบให้พิธีกรทำหน้าที่ประกาศต่อไป</span></div><div><br /></div><div></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374565465714984722" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 233px; CURSOR: hand; HEIGHT: 169px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhMHQndTDq0j86t_ylr5AaRIj2mK88kYSZA5AgrBgfen5iDvK6P_MEowQgTjQkEQYK7IowxYiiWG4U5rF04XcRUYiBsgW8My_AKhf0JxoqCjhIl0V-CLNIdpG0IP-d0ACpZ8ZNRyiFUu5M/s320/P8231605.JPG" border="0" /> <span style="color:#660000;">ฝ่ายพิธีกร : เมื่อถึงเวลาอันสมควร พิธีกรขึ้นสู่เวที: ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ/คะ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันมงคลสมรส ระหว่าง </span></div><div><span style="color:#660000;">นาย เรวัตร และ นางสาว กรวิกา ในค่ำคืนนี้ โอกาสแรกนี้ใคร่จะขอเรียนเชิญ คุณ........... และ ภรรยา คือคุณ.......... ให้เกียรติขึ้นมาสวมพวงมาลัยมงคลแก่คู่บ่าวสาว ขอเรียนเชิญครับ/ค่ะ </span></div><div><span style="color:#660000;">หลังจากการสวมมาลัยมงคลเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นตัวแทนของแขกที่มาร่วมงานขึ้นกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว </span><br /><span style="color:#660000;">พิธีกร : ต่อไปขอเรียนเชิญ คุณ วัฒนชัย ให้เกียรติขึ้นกล่าวคำอวยพรแก่คู่บ่าวสาว ขอเรียนเชิญครับ/ค่ะ </span></div><div><span style="color:#660000;">เมื่อการกล่าวอวยพรเสร็จสิ้นลง ฝ่ายเจ้าภาพหรือตัวแทนก็จะขึ้นกล่าวตอบขอบคุณ<br />พิธีกร : ต่อไปขอเชิญ คุณ เกษม...จะเป็นตัวแทนเจ้าภาพทั้งสองฝ่าย ขึ้นมากล่าวตอบขอบคุณแขกที่ร่วมเป็นสักขีพยานในงานมงคลสมรสในค่ำคืนนี้ ขอเรียนเชิญครับ/ค่ะ เมื่อเจ้าภาพกล่าวตอบขอบคุณจบลง </span></div><div><span style="color:#660000;">พิธีกร: ลำดับต่อจากนี้ไป เจ้าบ่าว และ เจ้าสาวของเราจะมากล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ ขอเชิญทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว ครับ/ค่ะ </span></div><div><span style="color:#660000;">เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวขอบคุณจบลงไปแล้ว<br />พิธีกร : พิธีการของงานสมรสในค่ำคืนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ จงประสบแต่ความสุขความเจริญ ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ สวัสดีครับ/ค่ะ</span> </div><div></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374567330002959298" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 247px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi_3AbXWegTiA_y3AwANsOlRqppOTVm6je0eaEQAMj5A1zx37h75S9ccMbY4wZHWSnBLaJSSsyN7P7aKlDASYVIJkkZ9HiAxHgLsr-1N7DK7PLy7Ll-6cU1JlU2um0uFyaS6r9KzakSuRs/s320/P8231604.JPG" border="0" /> <div><span style="color:#3333ff;">ข้อเสนอแนะ : งานมงคลสมรส หรือ งานแต่งงานแบบแรกที่นำมาเป็นตัวอย่างนี้ ถือเป็นแบบที่เรียบง่าย ใช้เวลาไม่มาก รวมเวลาตั้งแต่เริ่มงานจนกระทั่งเสร็จพิธีการน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามรูปแบบนี้เป็นเพียงตัวอย่าง หรือเป็นตุ๊กตาที่ท่านสามารถนำไปดัดแปลง ปรับปรุงให้เข้ากับบรรยากาศ ปรับเวลาให้มากกว่า น้อยกว่าตามความเหมาะสม จุดประสงค์เพื่อที่จะให้มีการพัฒนาให้ดีขึ้น</span></div><div><span style="color:#3333ff;">ดังนั้นการที่ทำงานกระชับรวดเร็วและเรียบร้อยเป็นหัวใจสำคัญของงาน<br /></div></span><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDmchzpbZtuMOy2jDeuX8h7XX4TRTHOO8z0T7Ry3x506S1UqhJyiDNkJCTxj9zxschHAupNOpmqeO0EWPhOxeV_zo07GTvZhTJk1M8NvuUREp77E4MiDrnznDimzddohE8U1-UFOGvjuM/s1600-h/P8231598.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374560698190313554" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 242px; CURSOR: hand; HEIGHT: 187px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDmchzpbZtuMOy2jDeuX8h7XX4TRTHOO8z0T7Ry3x506S1UqhJyiDNkJCTxj9zxschHAupNOpmqeO0EWPhOxeV_zo07GTvZhTJk1M8NvuUREp77E4MiDrnznDimzddohE8U1-UFOGvjuM/s320/P8231598.JPG" border="0" /></a></div>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2901093055636772482.post-1055780277390579962009-08-26T01:28:00.000-07:002009-08-27T21:32:05.223-07:00พิธีกรมืออาชีพ<em><span style="color:#990000;">โดย อานุภาพ ไทยอุปถัมภ์</span></em><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTdFoUzvjaKhywXfrHS5S78X6AARPbv8Dow2IWkuhO8HhzNCfIP5NsXXkwwT8jD8paaCO61A9Ie4NyGftXuRe9Y2d0myXaztJxgomV-DQDJ3PhRudrPjMQPeSrIGseQnJ2hboowcu8vtU/s1600-h/ages9.jpg"><span style="color:#ff0000;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374197661465352146" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 101px; CURSOR: hand; HEIGHT: 134px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTdFoUzvjaKhywXfrHS5S78X6AARPbv8Dow2IWkuhO8HhzNCfIP5NsXXkwwT8jD8paaCO61A9Ie4NyGftXuRe9Y2d0myXaztJxgomV-DQDJ3PhRudrPjMQPeSrIGseQnJ2hboowcu8vtU/s320/ages9.jpg" border="0" /></span></a><span style="color:#ff0000;"> พิธีกร (Master of Ceremony: MC)</span><span style="color:#000099;"> คือ ผู้ดำเนินการในพิธีต่าง ๆ เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ กำกับ / นำ / อำนวยการ </span><br /><span style="color:#000099;">ให้กิจกรรม รายการหรือ พิธีการต่าง ๆ ดำเนินการไปให้แล้วเสร็จ เรียบร้อยตามวัตถุประสงค์และกำหนดการที่วางไว้ </span><br /><br /><span style="color:#ff0000;">หน้าที่ของพิธีกร </span><span style="color:#000099;">เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ผู้ฟัง / ผู้ชม / ผู้เข้าร่วมพิธี<br />โดยอย่างน้อยจะต้องมี ขบวนการดังต่อไปนี้ </span><br /><div><span style="color:#000099;">ตามลำดับในแต่ละกิจกรรม เช่น</span><br /><span style="color:#000099;">1. แจ้งกำหนดการ </span><br /><span style="color:#000099;">2. แจ้งรายละเอียดของรายการ<br />3. แนะนำผู้พูด ผู้แสดง </span><br /><span style="color:#000099;">4. ผู้ดำเนินการอภิปรายและอื่น ๆ </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้เริ่มกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการ เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. กล่าวทักทาย ต้อนรับเชิญเข้าสู่งาน </span><br /><span style="color:#000099;">2. เชิญเข้าสู่พิธี ดำเนินรายการต่าง ๆ แล้วแต่กิจกรรม </span><br /><span style="color:#000099;">3. เชิญ เปิดงาน – ปิดงาน </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้เชื่อมโยงกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการต่าง ๆ เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. กล่าวเชื่อมโยงเหตุการณ์ตามลำดับ </span><br /><span style="color:#000099;">2. แจ้งให้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ </span><br /><span style="color:#000099;">3. แจ้งขอความร่วมมือ </span><br /><span style="color:#000099;">4. กล่าวเชื่อมโยงรายการให้ชวนติดตาม </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้ส่งเสริมจุดเด่นให้งานหรือกิจกรรมและบุคคลสำคัญในงานพิธี / รายการ</span></div><div><span style="color:#000099;">โดยพิธีกรจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ในวาระที่เหมาะสม เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. กล่าวยกย่องสรรเสริญ ชื่นชมบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในพิธี </span><br /><span style="color:#000099;">2. กล่าวถึงจุดเด่นของงานพิธีนั้น ๆ </span><br /><span style="color:#000099;">3. กล่าวแจ้งผลรางวัลและการมอบรางวัล </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้ที่สร้างสีสัน บรรยากาศของงาน / พิธี / รายการ เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเป็นระยะ </span><br /><span style="color:#000099;">2. มีมุขขำขึ้นเป็นระยะ ๆ </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้เสริมสร้างความสมานฉันท์ในงาน / กลุ่มผู้ร่วมงาน เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. กล่าวละลายพฤติกรรม </span><br /><span style="color:#000099;">2. กล่าวจูงใจให้รักสามัคคี </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;">เป็นผู้เติมช่องว่างและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงานพิธีต่าง ๆ เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">1. กล่าวชี้แจงกรณีบุคคลสำคัญไม่สามารถมาช่วยงานพิธีต่าง ๆ ได้ </span><br /><span style="color:#000099;">2. กล่าวทำความเข้าใจกรณีต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการ </span><br /><span style="color:#000099;"><br /></span><span style="color:#000099;"><span style="color:#ff0000;">โฆษกผู้ประกาศ</span> คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงาน องค์กร กับประชาชน </span></div><div><span style="color:#000099;">เพื่อให้ได้รับความสนับสนุนร่วมมือ </span><span style="color:#000099;">อันจะทำให้กิจการงานนั้น ๆ ประสบผลสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ </span></div><div><span style="color:#000099;">ด้วยวิธีการที่แตกต่าง</span><span style="color:#000099;">ในแต่ละกิจกรรม เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">• การบอกกล่าว </span><br /><span style="color:#000099;">• การชี้แจง </span><br /><span style="color:#000099;">• การเผยแพร่ </span><br /><span style="color:#000099;">• แก้ความเข้าใจผิด </span><br /><span style="color:#000099;">• การสำ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWFILt2vr-J92tNJ4CkHKWzSEDQTYWrQmwNfCROIUzK0gy3g3kcu_cuJG52wtvhteZx8AS1EvDs-GVGYfW3IIWaI_0TxB0dDC1RY5kgcvyOYywfrI5k_FuqscXr9pEaioilxVf8mMDFng/s1600-h/11.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374835219655598258" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 105px; CURSOR: hand; HEIGHT: 148px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWFILt2vr-J92tNJ4CkHKWzSEDQTYWrQmwNfCROIUzK0gy3g3kcu_cuJG52wtvhteZx8AS1EvDs-GVGYfW3IIWaI_0TxB0dDC1RY5kgcvyOYywfrI5k_FuqscXr9pEaioilxVf8mMDFng/s320/11.jpg" border="0" /></a>รวจประชามติ </span><br /><span style="color:#000099;"><br /></span><span style="color:#330099;"><span style="color:#660000;"><span style="color:#ff0000;">บทบาทการทำหน้าที่ของโฆษกผู้ประกาศ</span> โดยการใช้เครื่องมือด้านสื่อต่าง ๆ เช่น เอกสาร สื่อวิทยุโทรทัศน์ จัดเวทีประชาคม เดินสำรวจประชามติ เป็นกระบวนการประชาสัมพันธ์ ที่จะต้องดำเนินการต่อไป เช่นกระบวนการจัดกิจกรรมโดยใช้เวทีประชาคม ผู้ที่จะต้องทำหน้าที่ ในการควบคุม ดำเนินการให้ไปตามวัตถุประสงค์ในแต่ละครั้ง ผู้ที่เป็นพิธีกรในการดำเนินการรายการดังกล่าว จะต้องมีความเข้าใจ ในกระบวนการ และรู้หลักการวิธีการ ในการดำเนินการดังกล่าวนั้น ๆ เป็นภาระหน้าที่ของพิธีกรทั้งสิ้น ฉะนั้นจำเป็นที่จะต้อง ศึกษาบทบาทหน้าที่ของพิธีกรดังต่อไปนี้</span><br /></span><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#000099;"><span style="color:#ff0000;">พิธีกร</span> คือ บุคลากรที่จะต้องพูดโดยใช้ความสามารถเฉพาะตนจากการฝึกฝนและศึกเท่านั้น ไม่ใช้สักแต่จะพูดอย่างเดียวไม่ มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมที่จะต้องรับผิดชอบในด้านการพูดในตำแหน่งพิธีกร ฉะนั้น จะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจก่อนจะเป็นการเริ่มต้นที่จะทำหน้าที่ในการเป็นพิธีกรในกิจกรรมต่าง ๆ พิธีกรหรือโฆษก อาจจะเป็นบุคคลคนเดียวกันในกิจกรรมนั้น ๆ สร้างความเข้าใจในข้อมูล ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ต่อกิจกรรมต่าง ๆ ของข้อเท็จจริง ให้ทัศนะ ในโอกาสที่จะต้องปฏิบัติในแต่ละสถานการณ์ ในแต่ละกิจกรรม พิธีกร จะถูกกล่าวถึงมากในกรณีที่เป็นทางการ ส่วนโฆษกจะเป็นคำที่เรียกใช้ในส่วนที่ ก่อนถึงเวลาดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ หรือบางครั้งในท้องถิ่นชนบทจะเรียกรวมกันเช่น “ โฆษกพิธีกร ดำเนินการ ต่อไป ” ไม่ว่าจะเรียกว่าพิธีกรหรือโฆษกในกิจกรรมนั้น ๆ จะต้องเป็นการพูดคุย</span> <span style="color:#000099;">ในที่ชุมชน นั่นคือต่อคนส่วนมากทุกครั้งเป็นการพูดในที่ชุมชน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก หากพูดผิดก็จะทำให้เสื่อมเสียแก่ตนเองและองค์กร และถ้าหากทำดีพูดดีก็จะมีสง่าราศีแก่ตนเองเช่นกัน ดังสุภาษิต ของสุนทรภู่ที่ว่า<br /></span><span style="color:#ff0000;">“ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต<br />แม้พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดอยู่ที่พูดให้ถูกทาง ”<br /></span><br /><span style="color:#000099;">ฉะนั้น คนที่เป็นพิธีกรที่ดี มีความสามารถจะต้องมีการฝึกฝนเรียนรู้ในหลักการ </span><br /><span style="color:#000099;">กลยุทธ์ในการพูดคุยต่าง ๆ ดังนี้ เช่น </span><br /><span style="color:#000099;">• เตรียมพร้อม </span><br /><span style="color:#000099;">• ซ้อมดี </span><br /><span style="color:#000099;">• ท่าทีสง่า </span><br /><span style="color:#000099;">• หน้าตาสุขุม <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcu-WFtnPGY2RgrmkItaRfLorjPP2OmYuNFjmsQwDcmgHmtN3ubSEgDfyqunOLRU7CglKRPPIQ-PM4-liUjiu6WIl1ONJ8rgy24_nzYTWFISmaJuU9qTfFEB0exXL2FG3XlinTv5Hp5yk/s1600-h/images3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374835903351840930" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 144px; CURSOR: hand; HEIGHT: 105px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcu-WFtnPGY2RgrmkItaRfLorjPP2OmYuNFjmsQwDcmgHmtN3ubSEgDfyqunOLRU7CglKRPPIQ-PM4-liUjiu6WIl1ONJ8rgy24_nzYTWFISmaJuU9qTfFEB0exXL2FG3XlinTv5Hp5yk/s320/images3.jpg" border="0" /></a></span><br /><span style="color:#000099;">• ทักที่ประชุมอย่าวกวน </span><br /><span style="color:#000099;">• เริ่มต้นให้โน้มน้าว </span><br /><span style="color:#000099;">• เรื่องราวให้กระชับ </span><br /><span style="color:#000099;">• จับตาที่ผู้ฟัง </span><br /><span style="color:#000099;">• เสียงดังให้พอดี </span><br /><span style="color:#000099;">• อย่าให้มีอ้ออ้า </span><br /><span style="color:#000099;">• ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#660000;">บุคคลที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวจะต้องมีการเตรียมความพร้อม</span><br /><span style="color:#660000;">และเตรียมตัวในการทำหน้าที่ จะมี 2 กลุ่มคือ<br />1. รู้ตัวก่อนและจะต้องเตรียมตัว<br />2. ไม่รู้มาก่อน จะต้องไปใช้ปฏิภาณ ไหวพริบทุกคนทำได้<br /></span><br /><span style="color:#000099;">การเตรียมตัวในการทำหน้าที่พิธีกร หรือโฆษก ผู้ประกาศ </span><br /><span style="color:#000099;">พิธีกรหรือโฆษก จะต้องมีการเตรียมตัวในการทำหน้าที่ ดังนี้ </span><br /><span style="color:#000099;">1. ศึกษาข้อมูล / วิเคราะห์สถานการณ์ ผู้นำ ผู้ชม โอกาส วัตถุประสงค์ของงานพิธี รายการที่กำหนดไว้ </span></div><div><span style="color:#000099;">เพื่อทราบความมุ่งหมายของการทำหน้าที่ </span><br /><span style="color:#000099;">2. เตรียมเนื้อหาและคำพูด เริ่มต้นอย่างไร ? มุขตลก ขำขัน แทรกอย่างไร คำคม ลูกเล่น จุดเด่นที่ควรกล่าวถึง ต้องเตรียมค้นคว้าศึกษาจากศูนย์ข้อมูลมาให้พร้อม </span><br /><span style="color:#000099;">3. ตรวจสอบความเหมาะสม ของบทความที่เตรียมมาว่าเหมาะสมกับเวลาหรือไม่ </span><br /><span style="color:#000099;">4. ต้องมีการฝึกซ้อมไม่ว่าจะซ้อมหลอกหรือซ้อมจริง ต้องมีการฝึกซ้อม </span><br /><span style="color:#000099;">5. ศึกษาสถานที่จัดงานหรือพิธีที่กำหนดไว้ล่วงหน้า </span><br /><span style="color:#000099;">6. เตรียมเสื้อผ้าและชุดการแต่งกาย อย่างเหมาะสมกับกิจกรรม พร้อมดูแลตั้งแต่ หัวจรดเท้า</span><br /><br /><span style="color:#006600;">ข้อควรปฏิบัติในการทำหน้าที่ของพิธีกรหรือโฆษก มีดังนี้<br />• ทำจิตให้แจ่มใส<br />• ไปถึงก่อนเวลา<br />• อุ่นเครื่องแก้ประหม่า<br />• ทำหน้าที่สุดฝีมือ<br />• เลื่องลือผลงาน </span><br /><span style="color:#000099;"></span><br /><span style="color:#990000;">ข้อพึงระวังสำหรับการทำหน้าที่เป็นพิธีกร<br />• ต้องดูดีมีบุคลิก<br />• ต้องรักษาเวลาอย่างเคร่งเครียด<br />• ต้องแสดงออกอย่างสุภาพและให้เกียรติ ร่าเริงแจ่มใส ให้ความเป็นกันเอง<br />• ต้องมีการประสานงานด้านข้อมูล และพร้อมเผชิญปัญหาโดยไม่หงุดหงิด<br />• ต้องใช้ภาษาให้ถูกต้องชัดเจนให้ชวนฟัง น่าติดตาม<br />• ต้องเสริมจุดเด่นของคนอื่นไม่ใช่ของตนเอง<br />• สร้างความประทับใจ ด้านสุภาษิต หรือคำคม </span></div><div><span style="color:#990000;"></span></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374837697320272050" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 137px; CURSOR: hand; HEIGHT: 91px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuxxV1tuiCM87fhmDd4rfSLM83c8Qv94T9-VfM-4qoiiU2sZsCOq_Nc8RsD2R7nndE28o8QWkV3WOUd-Sgty5-IlPGE8pdcWZbAvUr2lusAJRDHBvYhUVaqpA08wFYtL3P7ZS564_Lyh0/s320/images5.jpg" border="0" /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRogRhZMZHg-sJWIhp-1vwrhbAQKrpZPmQLFZ3GVR3Z3W1SU3p0kdnoKv9NA1AQT11ukGohbzdR_r4JUDzLHinTZpfLVkCBI13YRolr07a7dmBluDCUp8sDFMXt2Ohb4n9i0Ujnkxg0CE/s1600-h/images8.jpg"><span style="color:#990000;"></span></a>D.J.http://www.blogger.com/profile/08917896568456137668noreply@blogger.com0